“เรืองไกร” ขอเกาะกระแส กกต. ยื่นร้องผู้ตรวจฯ สอบร่างกม.ไม่รอบคอบทำตีความสับสน

“เรืองไกร” ขอเกาะกระแส กกต. ยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน 18 เม.ย.นี้ สอบร่างกม.ไม่รอบคอบทำตีความสับสน หวั่น ส.ส.ไม่ครบ เปิดสภาไม่ได้

เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) เปิดเผยว่า ตามที่หลายฝ่ายออกความเห็นต่อกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติเอกฉันท์ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อว่า ตนเห็นด้วยในส่วนที่ว่า กกต. ถึงทางตันแล้ว จึงต้องหาองค์กรอื่นมาช่วยสนับสนุนวิธีการ แต่ก็งงว่าทำไมเพิ่งมายอมรับ ซึ่งการนำเรื่องไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญก็อาจจะเป็นทางออกหนึ่งที่ไม่รู้จะไปได้หรือไม่ จากประเด็นที่ กกต. กล่าวอ้างนั้น ยังมีประเด็นอื่นที่ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปพร้อม ๆ กันด้วย เช่น บทบัญญัติของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่ หรือ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 91 กับมาตรา 83 ขัดกันเองหรือไม่ แค่ตัวอย่างที่ยกมาก็อาจจะนำไปสู่การประกาศผลการเลือกตั้งไม่ทันวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ก็เป็นได้ และแม้จะประกาศผลได้แต่จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็อาจจะมีจำนวนไม่ถึง 150 คน และอาจทำให้ส.ส.โดยรวมมีจำนวนไม่ถึงร้อยละ 95 จาก ส.ส.ทั้งหมด 500 คน ผลก็คืออาจจะทำให้เปิดสภาครั้งแรกไม่ได้

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นบางส่วนน่าจะมาจากการร่างรัฐธรรมนูญไม่รอบคอบ และการร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ก็นำความไม่รอบคอบนั้นไปเขียนไว้อีก และเมื่อมีการเลือกตั้งจริง ผลก็ออกมาอย่างที่สาธารณชนได้รับทราบ คือเกิดการตีความจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปต่าง ๆ นานา จนเกิดความสับสนวุ่นวายไม่รู้อะไรใช่อะไรไม่ใช่ นอกจากนี้ประเด็นการคำนวณหาจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่กกต.ใช้จำนวนราษฎรที่ไม่ได้สัญชาติไทยมาคิดคำนวณ ต้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาว่า จะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญตามมาด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามเมื่อ กกต.เลือกหนทางนี้ ตนก็จะขอเกาะกระแสไปด้วย โดยการยื่นหนังสือให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องตามประเด็นที่ตนพบเพิ่มเติม เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยควบคู่กับที่กกต.ส่งเรื่องไป โดยตนจะไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 18 เมษายนนี้ เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์ราชการฯ อาคาร B

มติชนออนไลน์