“นคร” โต้ “สาธิต” เผด็จการ-ปชต. ไม่ใช่วาทกรรม ชี้ระบอบปกครองต้องมาจากประชาชน

วันที่ 15 เมษายน 2562 นายนคร มาฉิม อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้นายสาธิต วงศ์หนองเตย ที่ได้กล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยสร้างวาทกรรม”เผด็จการ-ประชาธิปไตย” ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่วาทกรรม แต่เป็นระบอบการปกครองที่เป็นของประชาชนโดยประชาชนและเพื่อประชาชน เป็นสิ่งที่ทางพรรคเพื่อไทยและอีกหลายพรรคฝ่ายประชาธิปไตยใช้เป็นแนวทางในการหาเสียงและให้คำสัญญากับประชาชนที่ผ่านมา ดังนั้นการที่พรรคที่ใช้แนวทางนี้หาเสียงได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นผู้แทนจึงหมายความว่าประชาชนจำนวนมากเห็นด้วยกับแนวทางความคิดนี้และต้อง การเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานและการบริหารประเทศจากคณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจประชาชนไปแล้วปกครองตลอดเวลาที่ผ่านมาห้าปี

นายนครกล่าวอีกว่า ที่สำคัญคือการหาเสียงที่ผ่านมายังไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติตามความเชื่อที่ประชาชนได้หย่อนบัตรเลือกตั้งแล้วพรรคการเมืองที่รับปากกับประชาชนไว้กลับเปลี่ยนใจไม่นำนโยบายที่หาเสียงไว้ไปปฏิบัติจะเรียกว่าประชาธิปไตยได้หรือไม่ มิฉะนั้นการหาเสียงเลือกตั้งก็จะเป็นเพียงการสร้างวาทกรรมอย่างที่นักการเมืองชอบพูดกันแต่ไม่มีการนำไปปฏิบัติตามที่ได้บอกให้ประชาชนเหล่านั้นมีความเชื่อในการหย่อนบัตรเลือกตั้ง ดังนั้นประชาธิปไตยไม่ได้จบแค่การเลือกตั้ง แต่ครอบคลุมไปถึงการนำนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ไปปฏิบัติในฐานะตัวแทนของประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองนั้นๆเข้าไปดำเนินการทางการเมืองแทน

อย่างไรก็ตามนายนครกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคารพในเสียงของประชาชนและมีความเชื่อในการรับรู้ข่าวสารและการตัดสินใจของประชาชน ซึ่งเราจะเห็นได้จากการให้ความสนใจของประชาชนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากข่าวลือเรื่องพรรคเศรษฐกิจใหม่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นแนวทางการดำเนินงานทางการเมืองของพรรคต่างๆจะถูกจับตาจากประชาชนและจะถูกตัดสินทางการเมืองเมื่อประชาชนมีอำนาจอยู่ในมือ เหมือนหลายพรรคการเมืองที่ได้รับบทเรียนเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

“ขอให้นักการเมืองบางคน บางพรรค หยุดสร้างวาทกรรมผูกโยงกับนายกฯทักษิณเสียเถิด เพราะนายกฯทักษิณ ก็เป็นเพียงนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยคนหนึ่งเท่านั้น ควรให้ความสำคัญต่อระบอบประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่มั่นคง ยั่งยืนกว่าตัวบุคคล ซึ่งต่างจากระบอบเผด็จการ ที่ได้อำนาจมาจากการยึดอำนาจของประชาชนไปโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความเห็นชอบ” นายนครกล่าวทิ้งท้าย