‘บิ๊กตู่’คืนกระดาษคำถามสื่อ หลังเจอคำถามดุเดือด-ปัดเอี่ยวตั้งรบ. ขอยึดพระบรมราโชวาท

“บิ๊กตู่” คืนกระดาษคำถามสื่อ ไม่ตอบ ปมตั้งรบ.-ทักษิณแย้งเลือกตั้งทุจริต ปัดเอี่ยวตั้งรัฐบาลชี้เป็นเรื่องฝ่ายการเมือง ขอยึดพระบรมราโชวาทให้คนดีปกครองบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ลงมายังห้องโถงตึกบัญชาการ 1 เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แต่ปรากฏว่าวันเดียวกันนี้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เดินมาถึงและกล่าวทักทาย สวัสดีกับช่างภาพ สื่อมวลชน ก่อนที่จะนำกระดาษที่จดคำถามต่างๆ ของสื่อมวลชนคืนให้กับนักข่าวอาวุโส พร้อมกล่าวว่า “คำถามทั้งหมดจากผู้สื่อข่าวต่างๆ ที่ถามมา ผมขออนุญาตส่งคืน ผมไม่ขอตอบคำถามนี้ และขอเรียนชี้แจงกับสื่อว่า ผมยังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งหมดเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง อย่างไรก็ตามในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมกันแสดงพลังในการมาออกเสียงเลือกตั้งเป็นจำนวนมากพอสมควร ผมก็จะตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ของผมในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และรัฐบาล ไปจนมีรัฐบาลใหม่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้เมื่อเราได้ให้กำลังใจในเรื่องประชาธิปไตยและเลือกตั้งให้ไปแล้ว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สงบ สันติ ตนจึงอยากให้ทุกคนกลับมามุ่งสู่พิธีสำคัญของเรา คือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งจะมีในหลายกิจกรรมด้วยกัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เมษายนเป็นต้นไป รัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน คณะกรรมการในระดับจังหวัดเพื่อเตรียมการในเรื่องเหล่านี้ โดยพิธีจะเริ่มจากพิธีพลีกรรม ตักน้ำ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนเป็นต้นไป โดยพระราชพิธีดังกล่าวจะมี 3 ห้วงด้วยกัน คือ ช่วงก่อนพิธีบรมราชาภิเษกในเดือนเมษายน จากนั้นก็จะเป็นในช่วงเดือนพฤษภาคม ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม และจะมีพิธีหลังจากนั้นอีกช่วงหนึ่งในเดือนเดียวกัน ซึ่งมีหลายกิจกรรมและหลายโครงการ ที่เป็นของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนร่วม ซึ่งได้มีการเสนอโครงการต่างๆ เข้ามาและคณะกรรมการได้พิจารณาแล้ว ซึ่งพิธีเหล่านั้นพวกเราทุกคนจะต้องทำให้สมพระเกียรติ บ้านเมืองจะต้องสงบเรียบร้อย มีความรักความสามัคคี

“ผมอยากให้ใช้โอกาสนี้นำพาประเทศไทยไปสู่ความสงบสันติอย่างยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อประเทศไทยของเรา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลจะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจฐานรากที่ยังมีปัญหามาก ซึ่งที่ผ่านมาทุกๆ รัฐบาลก็ยังแก้ปัญหาไม่เสร็จ แต่รัฐบาลนี้ได้พยายามที่จะแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถ ยืนยันว่าประเทศไทยยังมีความหวังทุกอย่าง การเมืองก็ต้องศึกษาสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่มองปัญหาแต่ในประเทศเราอย่างเดียว ต้องมองทั่วโลกเผื่อไว้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์พยายามที่จะหลีกเลี่ยงพูดถึงการเมืองโดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังมีปัญหา โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 32 นาทีและกล่าวในช่วงท้ายว่า “นี่คือการบ้านการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่การเมือง

ตราบใดที่ผมเป็นรัฐบาลอยู่ก็จะทำแบบนี้ ทำให้เหมือน 5 ปีที่ผ่านมาและทำให้ดีขึ้น เพียงแต่ขอความเข้าใจ และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนโดยรวม วันหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็สุดแท้แต่ประชาชนแล้วแต่จะพิจารณา วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนในเรื่องของการเลือกตั้ง ขอบคุณข้าราชการทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง ขอบคุณพี่น้องตำรวจทหารที่ทำงานในพื้นที่ชายแดน ทั้งภารกิจในเรื่องของความไม่สงบ ทุกคนที่ได้เสียสละชีวิตไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนอะไรมากมายไปกว่าปกติพึงมีพึงได้ตามกฎหมาย ทั้งเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนก็ไม่ได้ขอเพิ่มอะไร ถือเป็นหน้าที่ของทหารทุกคนที่ต้องทำงานทุกวัน คนไม่ดีก็ต้องถูกดำเนินการ ตามพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ระบุว่า ให้คนดีปกครองบ้านเมือง หรือปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้สมศักดิ์ศรีในการเป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดิน เป็นพระบรมราโชวาทที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้เมื่อหลายสิบปีแล้ว ก็ยังคงมีความทันสมัยอยู่ในการสืบสานรักษาต่อยอด ความมีอัตลักษณ์ของประเทศไทย อะไรที่เป็นอัตลักษณ์ไม่ดี ทุจริต โกงกิน การทำผิดกฎหมาย เป็นบ่อเกิดของสังคมที่ไม่ปกติสุข เพราะฉะนั้นก็ต้องแลก ถ้าอยากให้เป็นบ้านเมืองที่สงบก็ต้องกลับมาเคารพกฎหมาย ก็ต้องมาปรับแก้ทุกอย่างเพื่อไม่ให้มีผลกระทบซึ่งกันและกัน ถ้ามองแต่ประโยชน์ส่วนตัวก็คงเป็นไปไม่ได้ เราต้องได้ประโยชน์ทั้งโดยตรงและส่วนรวม ไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆ บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ง่ายขนาดนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ถ้าไม่คำนึงถึงประวัติศาสตร์ ปัญหาที่ทับซ้อนก็คงไม่ได้”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ผมเคารพคะแนนเสียงของประชาชนทุกคนที่ออกมาเลือกตั้งในครั้งนี้ ขอขอบคุณทุกคนด้วยใจจริง ขอบคุณสื่อทุกคน วันนี้ผมก็อยากจะบอกทุกคนว่า วันนี้ผมมีความสบายใจมากขึ้น ผมเคยบอกแล้วว่าประเทศไทยก็ต้องเดินหน้าไปแบบนี้ ไม่ได้ไปรักษาอำนาจ สืบทอดอำนาจ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงไม่ต้องให้มีการเลือกตั้งหรอก แต่กลไกอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ ตามผลประชามติก็ว่ากันไปตามนั้น เคารพเสียงประชาชนเขาบ้าง แค่นั้นเอง อย่าให้ทะเลาะเบาะแว้งกันอีกเลย อย่าไปให้ความสนใจกันมากนัก เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองเขาไปดำเนินการ อย่ามาถามผมอีก”

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่าสบายใจขึ้น เป็นเพราะได้เป็นนายกฯต่อใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า “คำถามแบบนี้นี่แหละที่ไม่สบายใจ”

สำหรับคำถามที่สื่อมวลชนได้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ได้รับคำตอบ อาทิ หลายพรรคการเมืองมองว่า “นายกรัฐมนตรีคนใหม่” จะสง่างาม ถ้า ส.ว. 250 คนงดออกเสียง และให้ ส.ส.ในสภา 500 คนเลือกกันเองก่อน เห็นด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด, นายกฯมีความเห็นอย่างไรต่อกรณีการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งสังคมมีข้อกังขาว่าการจัดตั้งรัฐบาลควรยึดจากจำนวนตัวเลข ส.ส.ที่ได้ หรือจำนวนคะแนนป๊อปปูลาร์โหวต, ส่วนตัวนายกฯพอใจกับจำนวนตัวเลข ส.ส.ที่ พปชร.ได้หรือไม่ หลังจากที่ไปช่วยปราศรัยในเวทีสุดท้ายที่สนามเทพหัสดิน, นายกฯประเมินการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ของ กกต.อย่างไร สอบผ่านหรือไม่ เพราะมีคำร้องเรียนจำนวนมาก และกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯระบุว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมามีการทุจริต

 

มติชนออนไลน์