‘อุตตม’ ย้ำ พรรครวมเสียงได้ก่อน ตั้งรัฐบาลได้! ไม่จำเป็นต้องชนะเลือกตั้งที่ 1

“อุตตม” ย้ำ พรรครวมเสียงได้ก่อน ตั้งรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องชนะเลือกตั้งที่ 1

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 มีนาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กทม. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจของพรรคก่อนเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมว่า พลังประชารัฐมีความมั่นใจมาก ว่าผู้สมัครของพรรคจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเข้าไปทำงานเพื่อประเทศชาติ ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียง ทั้งแกนนำและผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 30 เขต กระจายพบประชาชนใน กทม.และธนบุรี ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ทำให้มั่นใจกับกระแสตอบรับที่ได้มา อยากให้ประชาชนที่มีสิทธิออกไปเลือกตั้งให้มาก ซึ่งคนไทยกำลังจะกำหนดอนาคตประเทศ พรรคพลังประชารัฐเสนอตัวเข้ามาทำงานให้พี่น้องประชาชนเวลานี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ อยากให้ประชาชนได้มีโอกาสพิจารณาและคิดถึงทางเลือกที่มีในทางนี้ว่าเราจะกำหนดประเทศเดินหน้าไปได้อย่างไรอย่างมีความสุข มีผู้นำที่สามารถรักษาไว้ซึ่งความสงบสุข นำพาประเทศให้ไปสู่โอกาสไปสู่ความหวังที่จริงจังได้

ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อวันที่ 22 มีนาคมนั้น นายอุตตมกล่าวว่า จากกระแสตอบรับช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ปรากฏตัวบนเวที จากสื่อต่างๆ และจากการประเมินผู้สมัครทั่วประเทศ พบว่ามีกระแสตอบรับดีเป็นบวก ชัดเจนในการเดินหน้า 100 เมตรสุดท้ายนี้

เมื่อถามว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ลงจากเวทีปราศรัยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ได้บอกความรู้สึกอะไรหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ไม่ได้พูดจาอะไรมาก แต่ พล.อ.ประยุทธ์ชื่นชมกับประสบการณ์ที่พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมากๆ ท่าทาง สีหน้า แววตา หลอกกันไม่ได้ ตอนที่พวกเราไปคุยกับท่านช่วงสั้นๆ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจและให้โอกาสมาพบปะ

เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลถ้าพลังประชารัฐได้เสียงข้างมาก หรือรวบรวมได้เสียงข้างมาก พรรคจะมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า หลักการที่พรรคพลังประชารัฐได้เรียนมาตลอดภายใต้การเลือกตั้งครั้งนี้ กฎ กติกา หากพรรคสามารถรวบรวมเสียงข้างมากจากพี่น้องประชาชนได้ เอาเป็นว่ามีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่ได้ไปปิดกั้นใครว่าตามกติกา ใครรวบรวมเสียงข้างมากได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า ภายหลังปิดหีบรู้คะแนนแล้ว จะฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ นายอุตตมตอบว่า เดี๋ยวรอดู วันที่ 24 มีนาคม จะเห็นผลแล้ว จะเป็นตัวที่ชี้ว่าพรรคของเราหรือพรรคอื่นก็ตาม จะมีการเจรจาหรือหารือกันอย่างไร ขอรอดู

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีส่วนจัดตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า เรื่องนี้เรามีหลักการของพรรค ใช้กลไกของพรรคเป็นหลักที่จะหารือภายใน แต่อีกจุดหนึ่งข้อมูลก็คงต้องถึง พล.อ.ประยุทธ์เป็นธรรมชาติ เพราะเราได้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์และท่านรับเป็นแคนดิเดตนายกฯพรรค

เมื่อถามว่า หลักการจัดตั้งรัฐบาลจะเปิดโอกาสให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลก่อนใช่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า หลักการของเราคือพรรคใดที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ ก็น่าจะเป็นพรรคที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวพลังประชารัฐมีการเจรจาพรรคอื่นจัดตั้งรัฐบาลไว้แล้ว นายอุตตมกล่าวว่า การเจรจาไม่มี แต่การพูดคุยกันกับพรรคอื่นมีคุยอยู่แล้ว เพราะรู้จักและเข้าสนามเลือกตั้งด้วยกัน จึงถือเป็นธรรมดา นัดพบปะพูดคุยกัน เราแข่งขันกันก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่

เมื่อถามว่า ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร แล้วได้คุยกับพรรคประชาธิปัตย์หรือยัง นายอุตตมกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับใครเป็นเรื่องเป็นราว ขอรอดูวันที่ 24 มีนาคมก่อนผลเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ถ้าพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาล จะปิดตายเพื่อไทยเลยหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า เราพูดมาโดยตลอด พรรคพลังประชารัฐอยากให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นด้วยความสงบ สมกับที่พี่น้องประชาชนคาดหวัง อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยังไม่เคยพูดเลยว่าปฏิเสธพรรคไหน แต่บอกว่าให้ผลออกมาก่อนแล้วเราจะดู เพราะพลังประชารัฐก็มีเกณฑ์ของเรา ง่ายๆ คือ พื้นฐาน อุดมการณ์ ต้องร่วมกันระดับหนึ่ง นโยบายต้องไปด้วยกันได้ ถึงเวลานั้นจะมาดูเองว่าเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าต้องมีการเจรจาต่อรองทางการเมืองอะไรอีกหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า การเจรจาการต่อรองในเชิงการเมือง ตนคิดว่าเป็นธรรมชาติ เป็นปกติทางการเมืองของประเทศไทย เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่จะไม่ถูกหักหลังกลุ่มที่มีการพูดคุยกัน เป็นพลังประชารัฐโดดเดี่ยว นายอุตตมกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะพวกเราทุกคนไม่ได้กังวล ณ จุดนั้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะผลการเลือกตั้งยังไม่ออก รอให้ผลเลือกตั้งและเกิดการเจรจาก่อน

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายจำนวน ส.ส.ที่เราตั้งไว้นั้น หลังการเลือกตั้งก็จะทราบตัวเลขที่ชัดเจน แต่คาดว่าผู้สมัครของพรรคทั้งหมด จะชนะการเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.ทั้งประเทศ จนพรรคพลังประชารัฐสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ วันนี้กระแสความต้องการ พล.อ.ประยุทธ์มีมาก หลังจากที่เราได้รณรงค์ให้เลือกลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องการคะแนนเสียงจากประชาชน เพื่อสนับสนุนให้กลับมาทำงานให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้อีกครั้ง จึงขอให้ประชาชนออกมาเลือกตั้ง เลือก พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทุกเสียงมีความหมาย

นายสนธิรัตน์ยอมรับว่า การจะรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดคุยกับพรรคอื่น รวมถึงการต่อรองในตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการเมือง แต่เวลานี้ยังพูดไม่ได้ว่าเราจะรวมกับใคร เพราะต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน ผลการเลือกตั้งจะเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการตัดสินใจว่าจะร่วมกับพรรคใด ดังนั้น จำนวน ส.ส.และนโยบายพรรค จึงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจ เราไม่ได้มีสูตรเดียวในการจัดตั้งรัฐบาล แต่มีแบบพหุสูตร คือมีหลายสูตรด้วยกัน ทั้งนี้ ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ทุกคนในพรรคที่มีความสนิทกับคนของพรรคอื่น มีความเป็นกิ๊กกัน ก็สามารถไปทาบทามให้มาร่วมกันได้