‘สุวัจน์’ เชื่อมั่นรักษาฐานการเมืองที่โคราชได้ ระบุไม่มีเงื่อนไขจับมือได้ทุกพรรค

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาได้ปราศรัยใหญ่ครบ 14 เขต ปิดท้ายที่อำเภอบัวใหญ่ ขึ้นเป็นครั้งแรกในเขตเลือกตั้งที่ 5 พร้อมนำผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสหลายคนขึ้นปราศรัยด้วย โดยมีประชาชนชาวอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เข้ามาฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรคชาติพัฒนามากกว่า 3,000 คน และได้เดินเข้าไปพบปะประชาชนด้านล่างเวทีอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากพากันเบียดเสียดเข้าไปขอถ่ายรูป มอบดอกกุหลาบอย่างคึกคัก

นายสุวัจน์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้ร้างลาเวทีการปราศรัยใหญ่กับชาวโคราชมานานกว่า 14 ปีแล้ว เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) เห็นคนมาฟังการปราศรัยกว่า 2 หมื่นคน ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก และยิ่งทำให้ตนเองมั่นใจว่าโคราชต้องพรรคชาติพัฒนา บ่งบอกว่าสิ่งที่พรรคทำไว้ในอดีต กับสิ่งที่กำลังเสนอนโยบายที่จะทำ เป็นสิ่งที่ประชาชนชาวโคราชชื่นชอบจริงๆ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองอีกหน้าหนึ่งของเมืองโคราชที่มีคนมามากเกือบ 3 หมื่นคน ดังนั้น ตนจึงมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคชาติพัฒนาจะได้ ส.ส.ไม่น้อยกว่าเดิม คือไม่น้อยกว่า 3 คนแน่นอน ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนามีจุดยืนว่าจะทำการเมืองอย่างไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพื่อสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต้องการเล่นการเมืองแบบมีกติกา ไม่ต้องการให้การเมืองไปสร้างปัญหากับเศรษฐกิจ การเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ละพรรคก็เสนอนโยบายออกมาหลากหลาย ซึ่งทุกเวทีการดีเบตจะเห็นว่ามีประชาชนให้ความสนใจฟังเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากถึง 80% ก็แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องการเมืองมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้ก็จะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์อีกแน่นอน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะมีความชัดเจนมากที่สุด ที่พรรคการเมืองทุกพรรคต้องยอมรับ เพราะเป็นความต้องการจากเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศนั่นเอง ส่วนเรื่องพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น จากประสบการณ์ทางการเมืองของตน ถ้าจะให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ และมีฝ่ายค้านถ่วงดุลอำนาจอย่างเหมาะสม สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พรรคฝ่ายรัฐบาลควรจะมี ส.ส.ประมาณ 300 คน กำลังดี ถ้ามากกว่านี้จะทำให้มีอำนาจมากไป จนพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถไปถ่วงดุลอำนาจ หรือตรวจสอบได้ ถ้าน้อยกว่านี้รัฐบาลก็จะขาดเสถียรภาพ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนต่อไปว่าจะต้องการให้เป็นอย่างไรด้วย

“ส่วนการจับมือกับทุกพรรคในการร่วมเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งนั้น เราบอกแล้วว่าเราอยู่ตรงกลาง เพราะเราไม่ต้องการจะให้มีเงื่อนไขอะไรในทางการเมืองแล้วนำไปสู่การเพิ่มความขัดแย้ง ส่วนจะเป็นฝ่ายค้านจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ถือว่าเป็นบทบาทหน้าที่ในสภาฯ ฉะนั้นเราไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรว่า เราจะปฏิเสธคนนั้นหรือจับมือกับคนนี้ ส่วนความถนัดของพรรคชาติพัฒนานั้น เราเป็นได้ทั้งนั้น ที่ผ่านมาเราก็เป็นรัฐบาลก็ทำความเจริญมาเยอะกับเป็นฝ่ายค้านเราก็ทำงานได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ก็แล้วแต่ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร” นายสุวัจน์กล่าว

ส่วนพรรคชาติพัฒนามีการขอจองกระทรวงใดนั้น นายสุวัจน์ บอกว่า “เรายังไม่ได้จองอะไรเลย ไม่ได้คิด ตอนนี้ขอจองที่นั่งในสภาฯ ก่อน ซึ่งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ตนจะเดินทางมาเลือกตั้งที่ จ.นครราชสีมาด้วย”

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า วันนี้ (19 มี.ค.) การปราศรัยไฟนอลแล้ว พรรคให้ความสำคัญกับฐานเสียงและการพัฒนาอีสานและพัฒนาประเทศ พัฒนาโคราช เราปราศรัยอย่างเป็นทางการครบทั้ง 14 เขตแล้ว กระแสตอบรับของประชาชนดีมาก เรามาปิดการปราศรัยแล้ว เรามีความเชื่อมั่นว่าเราจะรักษาฐานการเมืองที่โคราชไว้ได้จากกระแสการตอบรับทั้งเรื่องนโยบายและประชาชนชอบ และสนับสนุนแนวทางทางการเมืองของพรรคในเรื่องของ โน พรอบเบลม ไม่มีปัญหา ฉะนั้นจุดยืนของพรรคที่เราประกาศมาตลอดว่า เราไม่แบ่งฝักไม่แบ่งฝ่าย เป็นกลาง และฟังเสียงประชาชน เล่นการเมืองเคารพกติกา รู้แพ้ รู้ชนะ ฟังเสียงข้างมาก ส่วนนโยบายโดนใจชาวโคราชพี่น้องประชาชนเขาคาดหวังการพัฒนาแหล่งน้ำ เพราะเป็นเมืองเกษตร เรามี 9 ลุ่มน้ำ เพียงแต่ระบบชลประทานที่จะเอาน้ำมาถึงมือประชาชนยังไม่เพียงพอ พี่น้องประชาชนอยากให้ดูเรื่องระบบชลประทานและราคาพืชผลการเกษตรซึ่งเราจะใช้นโยบายของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ในการยกระดับสินค้าเกษตร เราจะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมด้านเกษตรโดยเฉพาะเพื่อมาดึงสินค้าการเกษตรแล้วซื้อสินค้าเกษตรเข้าโรงงานอุตสาหกรรม และเพิ่มมูลคค่าการส่งออกให้กับประเทศ

มติชนออนไลน์