‘ศรีสุวรรณ’ ร้องกกต.เอาผิดพรรคใหญ่ หาเสียงแข่งกันแจกเงิน ส่อขัดรัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้การโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมือง ส่วนใหญ่ของนโยบายจะมีลักษณะการใช้เงิน การแจกเงิน เข้าข่ายเป็นนโยบายประชานิยม เช่น การขึ้นค่าแรง 400-425 บาท ปริญญาตรี 18,000-20,000 บาท เบี้ยเด็ก 1,200 บาท เบี้ยวัยรุ่น 2,000 บาท เบี้ยคนชรา 1,800 บาท ข้าวหอมตันละ 18,000 บาท ซึ่งการกำหนดนโยบายและการโฆษณาหาเสียงดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง มาตรา 258 ก. (3) ประกอบมาตรา 57 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ด้วย กล่าวคือ นโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงิน การประกาศโฆษณานโยบายนั้น อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (1) วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดําเนินการ (2) ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดําเนินนโยบาย และ (3) ผลกระทบและความเสี่ยงในการดําเนินนโยบาย เพื่อที่จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตัดสินใจที่จะลงคะแนนให้กับผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดได้

“ นับตั้งแต่มี พรฎ.ให้มีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 57 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 62 ประกอบ พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศล้มเหลวเหมือนประเทศเวเนซูเอล่าในขณะนี้ได้ สมาคมฯ จึงร้อง กกต. เพื่อขอให้สั่งพรรคการเมืองต่าง ๆ ดําเนินการให้ครบถ้วนและถูกต้องภายในระยะเวลาที่ กกต.กําหนด ก่อนการลงคะแนนเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของ กกต. ให้มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามมาตรา 121 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หาก กกต. ยังเพิกเฉยต่อการแจ้งและบังคับให้พรรคการเมืองต่างๆปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย อาจทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อาจพิจารณานำไปสู่การฟ้องร้อง เพื่อขอให้ศาลสั่งให้การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้เป็น “โมฆะ” ต่อไป”นายศรีสุวรรณ กล่าว

มติชนออนไลน์