จากพี่ถึงน้อง “บิ๊กบัง” สอน “บิ๊กตู่” เป็นนักการเมืองต้องหนักแน่น ในสภาโหดกว่านี้เยอะ

จากพี่ถึงน้อง “บิ๊กบัง” สอน “บิ๊กตู่” เป็นนักการเมืองต้องหนักแน่น ในสภาโหดกว่านี้เยอะ สั่งขวาหัน – ซ้ายหันไม่ได้แล้ว

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่สามารถทำได้ ถือเป็นแนวทางเพียงแต่ประเด็นชี้เป้าไปที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งมีคุณลักษณะเฉพาะ มีทั้งชอบและไม่ชอบบ้าง จะเห็นว่า การเมืองบ้านเรามีสองขั้วแบ่งกันค่อนข้างชัดเจน ถือเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง คิดเหมือนกันไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นคิดต่างกันก็เป็นธรรมดา แต่สำคัญ เมื่อมีผู้ปกครองมาปกครองแล้วประชาชนจะทะเลาะกันไม่ได้ หากเข้าสภามาแล้วยังแบ่งเป็นสองขั้วอีกตนก็เป็นห่วง ชทพ.ถึงได้บอกว่า คำว่า ก้าวข้ามความขัดแย้งเป็นปรัชญาในการปกครองประเทศของไทยเรา ส่วนเสียงวิจารณ์เรื่องคสช.รัฐประหารมาแล้ว แต่ต้องการสืบทอดอำนาจนั้น ประชาชนจะต้องพิจารณาว่า จะสืบทอดจริงหรือไม่ เพราะประชาชนต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองว่าชอบแบบไหน แล้วเอาไหนจริงหรือไม่จริง

เมื่อถามว่า ในฐานะรุ่นพี่อยากฝากอะไรถึง พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีแนวความคิดเข้ามาบริหารประเทศด้วยความจริงใจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่กระแสการเมืองบ้านเรานั้น บอกว่าทำดีบางทีก็บอกไม่ดี ถือเป็นเรื่องวาทกรรมทางการเมือง ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์เองต้องมีความหนักแน่นให้มากที่สุด เมื่อจะเข้ามาอยู่การเมืองก็ต้องมีการเตรียมตัวที่จะเผชิญ ที่ผ่านมา 5 ปียังไม่ได้เจอสิ่งที่หนักๆ ถ้าเกิดเข้าไปอยู่ในสภาได้ก็ต้องเตรียมรับสิ่งที่หนักกว่านี้ จึงอยากจะฝากบอกไว้ว่าต้องหนักแน่นมากขึ้น”

เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะที่เคยเป็นทหารชั้นผู้ใหญ่แล้วพัฒนามาเป็นนักการเมือง อยากแนะนำอะไร พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “อย่างที่ผมบอกแล้วว่าทหารสั่งลูกน้องได้หมด บอกขวาหันก็ขวาหัน แต่ว่าการเมืองมันไม่ใช่ การเมืองจะต้องมีเหตุมีผล ดังนั้น จึงมีบทสรุปของมันในเฉพาะเรื่อง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเผชิญสิ่งเหล่านี้ก็ต้องว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรคือประโยชน์ของชาติมากที่สุด ตรงนี้เป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องคิด”

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสอบผ่านหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องเตรียมตัวว่าจะต้องรับอะไร ถ้าไม่เตรียมตัวจะเหนื่อย ที่ผ่านมา 5 ปีคิดว่าเสียของหรือไม่นั้น เราอย่าไปคิดว่าเสีย ทุกอย่างไม่มีอะไรเสีย เพียงแต่เป็นวาทกรรม เพราะทุกอย่างที่ผ่านมาดีไปตามขั้นตอน ทุกอย่างไม่ว่าใครจะทำอะไร ย่อมมีวิกฤติในเวลานั้นที่เกิดขึ้นมา ดังนั้น ทุกคนต้องแก้วิกฤติในเวลานั้นให้ผ่านไป เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ขอเรียนว่าก็มีข้อดีอยู่หลายเรื่อง แต่ถ้ามองข้อเสียมันก็เสียวันยันค่ำ แต่เอาข้อดีมาพูดดีกว่าว่าท่านทำอะไรบ้าง โดยภาพรวมอยากให้พวกเรามองแต่สิ่งดีๆ พูดแต่สิ่งที่ดีกัน แล้วบ้านเมืองเราจะไปได้

เมื่อถามถึงกรณีขณะนี้ฝ่ายการเมืองโจมตี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จนถูกมองว่ากองทัพเป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า วันหนึ่งหากพรรคการเมืองใดก็ตามขึ้นมาเป็นรัฐบาล วันนั้นเขาต้องมีความรักความผูกพันกับกองทัพอยู่แล้ว เพราะกองทัพเป็นเครื่องมือของรัฐบาล วันนี้เป็นช่วงเวลาหาเสียงเท่านั้น

เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่บางพรรคการเมืองเสนอให้ยกเลิกเกณฑ์ทหาร และให้ตัดงบกองทัพด้วย พล.อ.สนธิ กล่าวว่า “ไม่มีโลกไหน ไม่มีประเทศไหนที่เขาลด แต่เมื่อเขาได้มาเป็นรัฐบาลแล้ว เขาย่อมต้องดูแล อาจจะให้งบประมาณเกินค่าจีดีพี หรือมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีด้วยซ้ำไป”

เมื่อถามถึงกรณีรัฐบาลถูกวิจารณ์เรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ตรวจราชการจังหวัด จนถูกมองว่าใช้งบหลวงหาเสียง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เชื่อว่า กกต.คงตรวจสอบและดูอยู่ หากทำอะไรที่เกินเลยก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำ แต่เชื่อว่าที่ปรึกษาของนายกฯคงให้คำแนะนำในสิ่งที่เหมาะควรแล้ว และประชาชนเข้าใจและมองเห็นว่าอะไรถูกหรือผิด ดังนั้น วันนี้ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนแล้ว เวลา 5 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรที่เหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ประชาชนคงเห็นแล้ว

มติชนออนไลน์