วันที่ 15 มีนาคม 2562 นายชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียง พร้อมผู้สมัครส.ส.เขต 1 ลีลาวดี วัชรโลบล บริเวณตลาดรวมยาง ย่านเทเวศร์และคลองหลอด โดยมีประชาชนและผู้ค้าในพื้นที่ดังกล่าวให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ขณะที่บางรายได้ตะโกนให้กำลังใจลั่นตลาด

โดยนายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ พร้อมได้แสดงความกังวลต่อการเลือกตั้งว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงสับสนในเรื่องกาบัตรเลือกตั้ง และปัญหาความไม่เข้าใจในเรื่องเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน จึงอยากฝากให้คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ทำหน้าที่ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจไตร่ตรองก่อนเข้าคูหา ส่วนปัญหาอื่นๆ คือเรื่องปัญหาปากท้องและปัญหายาเสพติดในท้องที่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ควรต้องลงมือทำเลยไม่ต้องรอหลังการเลือกตั้ง เพราะเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน

ส่วนกรณีการออกนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและเพิ่มเงินเดือน 20,000 บาท ของพรรคพลังประชารัฐ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง และทางพรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายในส่วนนี้อย่างไร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าที่จะผลักดันค่าแรงขั้นต่ำในเรท 400บาท ซึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี2555 จนในปัจจุบันในกทม.อยู่ 320 บาทต่อวัน เฉลี่ยแล้วขึ้นปีละ 1 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่าตัวเลขจีดีพี อย่างไรก็ตามในช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี จึงเห็นว่าต้องรอให้เศรษฐกิจเข้มแข็ง ถึงจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำได้ เพราะฉะนั้นหัวใจหลักของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่การปรับทันทีแต่ต้องทำให้เศรษฐกิจกลับมามั่นคงก่อน

เมื่อถามว่ากังวลไหมว่าจะถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ประชานิยมมาใช้หาเสียง นายชัชชาติ ระบุว่าก็ต้องระมัดระวัง อย่างกรณีขึ้นค่าแรงส่วนตัวมองว่าเป็นปัญหาของเอกชนมากกว่าภาครัฐ ซึ่งก็ต้องระวังเรื่องความมั่นใจ เราต้องพูดให้ชัดว่าการขึ้น 400 บาทเป็นอย่างไร และทางพรรคเพื่อไทยจะลงมือทำในช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาเข้มแข็ง ส่วนเรื่องที่ภาครัฐต้องใช้เงินจ่าย ยกตัวอย่างเช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็ต้องระมัดระวังเพราะเป็นเงินที่มาจากภาษี และตอนนี้เข้าใจว่ากำลังจะหมดแล้วในเดือนเมษายน ก็ต้องหาทางเติมเงินเข้าไป ทั้งนี้เชื่อว่าหากเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น เงินเดือนขั้นต่ำ 20,000-30,000 บาท ก็มีความเป็นไปได้

นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังระบุถึงกรณีท่าทีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ออกมาโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดคุยแต่อย่างใด พร้อมเน้นย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่จับมือกับพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ

ส่วนกรณีที่พลเอกประยุทธ์ ออกสารเตือนพรรคการเมืองในกรณีพูดถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ นายชัชชาติ กล่าวว่าพรรคการเมืองนั้นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและเรียบของกกต.อยู่แล้ว และเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงกล่าวถึงพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีการใช้เงินเยอะ

“ผมว่าเขาน่าจะหมายถึงพลังประชารัฐหรือเปล่า เพราะเขาก็ให้ตังค์เยอะ” ชัชชาติ ระบุ

ขณะที่กรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ออกมาระบุว่าถ้าไม่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ นักลงทุนจะไม่มีความมั่นใจ ว่า ความมั่นใจไม่ได้เกี่ยวตัวบุคคล แต่หัวใจสำคัญคือการจัดเลือกตั้งที่โปร่งใส