นายกฯ อ้อนนักธุรกิจลงทุนในไทย ขอให้เชื่อมั่นตนเอง จะทำให้ดีแบบที่เคยทำมา

นายกฯปาฐกถาพิเศษการประชุม CLSA อาเซียน ปี 62 อ้อนนักธุรกิจตัดสินใจลงทุนในไทย ขอให้เชื่อมั่นตนเอง ย้ำจะทำให้ดีที่สุดอย่างที่เคยทำมาตลอด 5 ปี ชูยุทธศาสตร์ 20 ปี พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียน

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุม CLSA อาเซียน ประจำปี 2562 ตอนหนึ่งว่า ตนเองมาในนามรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีของไทยที่คาดหวังว่าการประชุมวันนี้จะให้ข้อมูลทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม การเมืองที่เป็นประโยชน์ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ซึ่งเราอยู่คนเดียวไม่ได้แต่ทุกฝ่ายต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ทั้งพื้นที่ ประชาชน และศักยภาพในอาเซียนที่ถือเป็นตลาดที่สำคัญของโลกใบนี้ ซึ่งแต่ละประเทศแตกต่างกันไป จึงจำเป็นต้องพัฒนาไปพร้อมกัน ทั้งการเดินหน้าไปสู่อนาคตและการสร้างความเชื่อมโยงที่ต้องไปด้วยกันในทุกมิติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้มีการลงทุนใหม่มากมายในประเทศไทย และพร้อมขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในรัฐบาลนี้พยายามจะเดินหน้าไปให้ได้ การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อการทำธุรกิจและการดำเนินชีวิตอย่างรุนแรง ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันที่ดีเพราะเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับการประกอบธุรกิจ ขณะที่ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ทั่วโลก กำลังเข้ามาพร้อมการเจริญเติบโตของโลกยุคดิจิตัล ทุกประเทศจึงต้องร่วมมือกัน เพื่อนำสิ่งเหล่านี้ไปขับเคลื่อน และเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็น 1 ในคำตอบของการทำธุรกิจ เพราะเป็นประเทศที่มีทำเลอยู่ใจกลางอาเซียน ทุกประเทศต้องนำพาอาเซียนไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง แม้ประเทศไทยจะเป็นพื้นที่เล็กแต่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมโลกด้วยเช่นกัน สำหรับการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ ไทยมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว โดยได้มีกำหนดแนวคิดไว้แล้ว คือ ความร่วมมือ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ โดยประเทศสมาชิกจะได้รับประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยจะผลักดันอาเซียนให้เจริญเติบโตให้มากยิ่งขี้น ซึ่งทุกวันนี้มีทูตและคณะต่างๆ มาเข้าพบตนเองเป็นเป็นจำนวนมาก ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยทุกประเทศพูดถึงเรื่องของความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่ตนเองพยายามทำอยู่ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และกรอบการดำเนินการในด้านต่างๆ ในเวลาที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และวันข้างหน้าก็เป็นเรื่องของรัฐบาลถัดไป ขณะเดียวกัน ตนเองยินดีแก้ไขการประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะจากเจ้าหน้าที่รัฐ

“ประเทศไทยถือเป็นตัวเลือกที่ดีอีกประเทศหนึ่งขอบคุณทุกคนที่มาลงทุนในประเทศไทย หากใครที่ยังไม่ได้ตัดสินใจขอให้ตัดสินใจเลย เพราะผมจะได้นอนหลับฝันดี จึงขอให้เชื่อมั่น ผมจะทำให้ดีที่สุด อย่างที่เคยได้ทำมาตลอด 5 ปี ” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ประเทศไทยได้ทำโครงสร้างดิจิตัลทั่วประเทศ เพื่อให้มีการส่งข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการทำเคเบิลใต้น้ำเพื่อช่วยเสริมสร้างประเทศต่างๆ และประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ดังนั้น จึงไม่ใช่การเตรียมความพร้อมแค่ปีนี้ ปีหน้า หรือ 5 ปี แต่ต้องเตรียมความพร้อมในอีก 20 ปีข้างหน้าด้วยว่าจะทำอย่างไร เพื่อทำให้สิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วไม่ดีให้ดีขึ้น เหมือนตนเองที่ทำแล้วภูมิใจ ถ้าทำแล้วคนส่วนใหญ่ได้รับผลตอบแทนที่เท่าเทียมเป็นธรรมได้กุศลที่ทำกับคน เพราะตนไม่ได้เกิดจากโอ่ง ซึ่งธุรกิจก็คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เสมอและต้องช่วยกันไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ทำปีนี้ แต่ปีหน้าประท้วงกันเลอะเทอะไม่ได้ ต้องเข้าใจว่าวันนี้เป็นโลกดิจิตัล โลกเสมือนจริง อำนาจของรัฐบาลทั่วโลกลดลง เพราะโซเชียลเป็นช่องทางที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งการวิพากษ์วิจารณ์ การแสดงความคิดเห็นทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงขอให้ทุกคนติดตาม เพราะจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของทุกคน ดังนั้น การทำให้อาเซียนเข้มแข็งไปด้วยกัน จึงต้องเริ่มจากความสงบ ความร่วมมือเป็นพื้นฐานเศรษฐกิจ การเมืองต้องมีเสถียรภาพ ร่วมมือกันไม่ใช่แค่อาเซียนแต่รวมถึงทุกภูมิภาค โดยภาคธุรกิจจะเป็นผู้ลดความรุนแรงและจะเป็นแกนนำ ปลดล็อกเรื่องต่างๆ เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์เพื่อให้คนเกิดความสะดวก พร้อมขอให้ทุกคนในที่นี้เติบโตไปกับเรา เติบโตไปกับอาเซียน และขอทุกคนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในอาเซียนเพื่อขยายธุรกิจของตนเองต่อไป วันนี้อดไม่ได้ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ตนเองสัญญาว่าจะจูงมือแต่ละประเทศไปข้างหน้าพร้อมกัน ส่วนเรื่องการเมืองก็ขอให้เป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการปาฐกถาพิเศษนายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามผู้เข้าร่วมงาน อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีเรื่องใดที่ให้เห็นเป็นรูปธรรมภายใน 2-3 ปี หรือไม่ โดยนายกฯ กล่าวว่า ทุกวันนี้ก็ปฏิบัติอยู่แล้ว เราทำไปแล้ว ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ถือเป็นกฎหมายปฏิรูปฉบับแรกของไทย ตามรัฐธรรมนูญ และในช่วง 5 ปีแรก สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การลงพื้นที่ของตนจะไม่มีการจัดฉากโรยผักชี เพราะการเดินทางจะรวดเร็วและสะดวกขึ้น

มติชนออนไลน์