‘จุติ’ ลั่นพูดพันครั้งแล้ว ‘ปชป.-พท.’ ไม่จับมือกัน โอด ‘สุเทพ’ ปราศรัย บีบปชป.เลือกข้าง

“จุติ” ย้ำชัด “ปชป.-พท.” ไม่จับมือกัน ชี้ “สุเทพ” ปราศรัย ไล่ประชาธิปัตย์เลือกข้าง โวย ปชช.ยังรู้เลยว่า สองพรรคนี้ “เหม็นขี้หน้ากัน” ขอเลือกตั้งครั้งนี้แก้ปัญหาบ้านเมืองให้ ปชช.กินอิ่ม-นอนหลับก่อน ค่อยสู้กันได้หรือไม่

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคปชป. แถลงว่า จุดยืนของพรรค ปชป. ที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และจับมือกับพรรคเพื่อไทย (พท.) เพราะพรรค ปชป.ต้องเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล โดยหลายคนอาจสงสัยและสับสนว่า ทำไมพรรค ปชป.มาประกาศจุดยืนในตอนนี้ ซึ่งถ้าทุกคนถอดอารมณ์ออกจากเหตุการณ์ แล้วมองด้วยสติ ข้อเท็จจริง จะเห็นว่าทุกพรรคการเมืองแข่งขันกันเพื่อเป็นที่หนึ่ง และเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเป็นการแข่งกันด้วยนโยบายที่ต้องนำเสนอให้กับประชาชน วันนี้ตนคิดว่า ความมีอารมณ์นั้นได้กลบเรื่องนโยบายดีๆ ที่พรรค ปชป. ต้องการนำเสนอ ทั้งนี้หัวหน้าพรรค ปชป. ใช้เวลา 200 กว่า สัปดาห์ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำมาจัดทำเป็นนโยบายของพรรค เพื่อตอบโจทก์ในปัญหาต่างๆ และเมื่อเราได้เป็นรัฐบาลก็จะสามารถลงมือทำได้ทันที นี่คือข้อแตกต่างของพรรค ปชป.กับพรรคอื่น

“คำถามว่าเราจะไปจับมือกับพรรคการเมืองใด ไม่สำคัญเท่าการมีกิน มีใช้ มีเงินเก็บพอ และชำหนี้ได้ ลูกหลานเรียนจบมีงานทำแน่นอน ผมคิดว่าสังคมลืมเรื่องพวกนี้ไป ฉะนั้นพรรค ปชป.จึงอยากบอกว่า เราจะมาโฟกัสตรงนี้มากกว่าการเมือง เราจะไม่แก้เกมการเมือง แต่เราจะแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน สิ่งที่อยากให้ประชาชนมั่นใจ  ปชป.พูดเป็นครั้งที่ 100-200 แล้ว ว่าไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย (พท.) แน่นอน และพรรค พท.ก็ชัดเจนว่าไม่จับมือกับเรา พูดง่ายๆ ต่างคนก็ต่างประกาศว่าเหม็นขี้หน้ากัน” นายจุติ กล่าว

เลขาฯปชป. กล่าวต่อว่า วันนี้ เรามีของดี คือนโยบายในการแก้ไขปัญหา การเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ประชาชนเลือกว่าพรรคใดจะเข้ามาแก้ไขปัญหาของท่านได้ดีที่สุด และอยากจะบอกว่า พรรค ปชป.มีทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุด ซึ่งพรรคอื่นไม่มี โดยเราจะทำให้สิ่งที่ถูกต้อง จะไม่ทำให้ประเทศต้องเสียหาย ฐานะทางการคลัง การเศรษฐกิจของประเทศต้องไม่เสียหาย ตนอยากเตือนสติพี่น้องประชาชนว่าอย่าเลือกด้วยความสะใจ เหมือนอย่างกรณีที่ประเทศอังกฤษ ให้ประชาชนลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป ซึ้งตอนนั้นประชาชนของเขาไปลงประชามติด้วยความเบื่อ จนทำให้ขณะนี้เศรษฐกิจของอังกฤษ ย่ำแย่มาตลอด 3 ปี ดังนั้นจากกรณีนี้ อีกไม่กี่วันจะถึงการเลือกตั้งแล้ว จึงขอให้ประชาชนดูที่นโยบายของแต่ละพรรค บางพรรคอยู่ในมุมมืด ได้แต่เพียงแสดงจุดยืนทางการเมือง ขอถามว่าเพียงแค่การแสดงจุดยืนทางการเมืองจะสามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนได้จริงหรือไม่ ซึ่งตนบอกเลยว่าไม่ได้

เมื่อถามว่า ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังยืนยันที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ โอกาสที่พรรค ปชป. จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พปชร. เหมือนเช่นพรรคพท.ใช่หรือไม่ นายจุติกล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาน้อยสำหรับการหาเสียงแล้ว ตนจึงตั้งใจที่จะมุ่นเน้นเรื่องนโยบายมากว่าจะไม่เสียสมาธิกับเรื่องจะไปจับมือกับใคร เพราะการจะจับมือกับใครเราต้องฟังเสียงประชาชนวันที่ 24 มีนาคมที่จะบอกว่าจะเอาใครเป็นรัฐบาล ตอนนี้ยังคาดเดาไม่ได้ว่าประชาชนจะเราหรือคนอื่น แต่ยืนยันว่าเราจะฟังและเคารพเสียงประชาชนอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า ถ้าเสียงของประชาชนบอกว่าให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ พรรค ปชป.จะยินยอมไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายจุติกล่าวว่า ตนจะไม่ตอบคำถามที่ว่า “ถ้า” เมื่อถามย้ำว่า พรรค พท.ออกมากล่าวหาว่าจุดยืนของพรรค ปชป. ไม่ใช่มติพรรค นายจุติกล่าวว่า “แล้วตอนนี้ คนที่ออกมาพูดเป็นมติพรรคหรือไม่ พรรคไหนประชุมได้บ้าง”

ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ปราศรัยว่า การที่ ปชป. ประกาศจุดยืนไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แสดงว่าจะจับมือกับพท.ใช่หรือไม่ นายจุติกล่าวว่า เราพูดเป็นครั้งที่พันแล้วว่า จะไม่จับมือกับพรรค พท. และพรรค พท.ก็ยืนยันว่าไม่จับกับเรา ไม่เข้าใจหรืออย่างไร ต่อให้พูดเป็นหมื่นหน ประชาชนเองก็ฟังรู้เรื่องแล้วว่า สองพรรคนี้เหม็นขี้หน้าซึ่งกันและกัน เพราะมีคำตอบอยู่ในตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ความเห็นอะไรอีก แต่อยากจะให้ประชาชนไปดูนโยบายพรรค และตัดสินใจด้วยสติ ว่าจะมอบความไว้วางใจให้กับใครต่อไป

ต่อข้อถามว่า การปราศรัยของนายสุเทพ มีการโจมตีหัวหน้าพรรค ปชป. ตรงนี้จะแก้ไขอย่างไรเพราะอาจจะมีผลต่อฐานเสียงของพรรค เลขาฯปชป. กล่าวว่า เท่าที่เราลงพื้นที่หาเสียงอย่างหนัก ไม่มีประชาชนคนไหนบอกให้ไปจับมือกับใคร มีแต่บอกว่าจะแก้ปัญหาต่างๆ ให้ประชาชนอย่างไร พวกเขาหิว ขอกินอิ่มก่อนแล้วค่อยไฟว้กันได้หรือไม่ เราก็ต้องนำเสนอนโยบายว่าจะแก้ให้เขา และทำตามนั้น โดยทำให้ประชาชนอิ่มก่อนแล้วค่อยทะเลาะกัน ไปแก้รัฐธรรมนูญหรืออะไรภายหลัง ส่วนที่หลายพรรคพยายามชวนทะเลาะกับเราเรื่องจุดยืนนั้นเพราะพวกเขาไม่มีนโยบายที่จะมานำเสนอหรือไม่ ดังนั้นขอให้เอานโยบายมานำเสนอดีกว่า

“นี่คือวินัยการต่อสู้ของเรา เขาก็สู้แบบนั้น ถ้าเราสู้ผิดก็แพ้ แต่ถ้าเขาสู้ผิดเขาก็แพ้ แต่สิ่งที่เราแพ้คือจุดยืนที่ว่าประชาชนเป็นใหญ่ เราแพ้ตามอุดมการณ์ เพราะทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว ส่วนประชาชนจะยอมรับหรือไม่ เราก็ฟังเสียงประชาชน ครั้งนี้จะเห็นขอแตกต่างว่าเราใช้นโยบายที่กระชับ โดน แก้ปัญหาเฉพาะเรื่อง แม้จะไม่เกือบทุกเรื่อง ซึ่งพรรคอื่นไม่มี ซึ่งการแสดงครั้งนี้เพื่อต้องการให้ประชาชนที่รู้สึกงุนงง สับสนว่าเกิดอะไรขึ้นได้รับความชัดเจน ไม่ใช่เป็นการออกมาช่วยนายอภิสิทธิ์” นายจุติกล่าว

มติชนออนไลน์