ปธ.กกต.เผย ผลสอบโต๊ะจีนพปชร.ไร้หน่วยงานรัฐซื้อ-จ่อสอบคำร้อง ‘บิ๊กตู่’ จนท.รัฐหรือไม่

“วรวัจน์” ยันชี้แจงกับชาวบ้านปมโหวตโน ไม่เข้าข่ายผิด กม. เน้นทำความเข้าใจ ไม่ได้จูงใจ-ไม่ได้สัญญาว่าจะให้-ไม่ได้ขวางการเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึงกรณีที่ประธาน กกต. ออกมาระบุการรณรงค์โหวตโนถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ว่า การตัดสินใจกาโหวตโน ถือเป็นสิทธิของประชาชน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดแพร่ ได้มาสะท้อนความคิดเห็น ว่าไม่อยากจะเลือกผู้สมัครรายใดในพื้นที่ และเป็นผู้เริ่มต้นเสนอที่จะกาโหวตโนเอง ตนเองเป็นเพียงผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีโหวตโน และชี้แจงกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าการโหวตโนคืออะไร ส่วนประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นเรื่องของประชาชนเอง ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกระทำของตนเองไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในมาตรา 73 ที่ระบุว่า ห้ามบุคคลใดจูงใจให้มีการเลือก หรือไม่เลือกผู้สมัครรายใด ด้วยการสัญญาว่าจะให้ ใช้อิทธิพลข่มขู่ หรือไปขัดขวางการออกไปใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชน เพราะการพูดคุยกับประชาชนในวันนั้น ได้เน้นทำความเข้าใจเรื่องการโหวตโน ไม่ได้มีเรื่องของการสัญญาว่าจะให้ หรือไปขัดขวางการออกไปใช้สิทธิออกเสียงของประชาชน อย่างไรก็ตาม มองว่า ในทางตรงกันข้าม กรณีที่ประธาน กกต.ออกมาระบุว่า การโหวตโนเป็นการกระทำความผิดนั้น อาจจะเข้าข่าย ขัดขวางหรือใช้อิทธิพลข่มขู่ ให้ผู้ที่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ไม่ได้ไปออกเสียงในทางใดทางหนึ่งได้มากกว่า

เมื่อถามถึงกรณีที่ได้สวมเสื้อของพรรคเพื่อไทย (พท.) ไปพบปะกับชาวบ้าน นายวรวัจน์กล่าวว่า เนื่องจากว่าตนได้กลับไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพท. แล้ว ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนทั่วไป ที่จะสังกัดพรรคการเมืองใดก็ได้ และการสวมเสื้อลักษณะดังกล่าว เพื่อพบปะกับชาวบ้านในพื้นที่ ก็ถือเป็นความคุ้นชินตามปกติ เพราะได้แต่งกายลักษณะนี้มากกว่า 20 ปีแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติในพื้นที่ และสำหรับการพูดคุยกับชาวบ้านในวันนั้น ก็ไม่เชื่อมโยงอะไรกับพรรค พท. เพราะพรรค พท.ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าว จึงไม่เข้าข่ายว่าเป็นการจูงใจหรือเป็นการชี้นำใดๆ

มติชนออนไลน์