เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ได้วางกรอบงบประมาณ เพื่อดำเนินการจัดการเลือกตั้งโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.จำนวน 4,000 + 600 ล้านบาท จากการเสนอขอไป 5,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้ง เมื่อปี 2554 หลายร้อยล้านบาท โดยอ้างเหตุผลจากอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญที่เพิ่มขึ้นนั้น แต่ผลจากการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในต่างประเทศพบว่า มีปัญหาหลายประการ เช่น การจัดการเลือกตั้งที่มาเลเซีย มีผู้มาใช้สิทธิกว่า 5 พันคน แต่มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ผู้มาแสดงสิทธิเลือกตั้งต้องยืนเข้าคิวรอนหลายชั่วโมง มีการขยายเวลาการใช้สิทธิ ขณะเดียวกันคูหาเลือกตั้งไม่เพียงพอ ต้องนำกล่องกระดาษทำเป็นคูหาเลือกตั้งเพิ่มเป็นข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก เป็นที่อับอายขายหน้า

“ผลของการจัดการเลือกตั้งชี้ให้เห็นถึงการใช้จ่ายงบประมาณที่ผิดพลาด ล้มเหลว ขณะเดียวกัน กกต.ทั้ง 7 คน กลับมีเงินไปใช้จ่ายในการตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างฟุ่มเฟือยกว่า 12 ล้านบาท เลือกไปแต่เฉพาะในประเทศที่คนนิยมไปท่องเที่ยว ทั้ง อเมริกา อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน ทั้งที่ประเทศเหล่านั้นมีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง พฤติการณ์การบริหารงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวของ กกต. มีความน่าเคลือบแคลงสงสัย สมาคมฯจะเดินทางไปร้องเรียนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” หรือ สตง. เพื่อขอให้ตรวจสอบ 7 กกต. ว่า ใช้จ่ายเงินแผ่นดินไปโดยชอบด้วยกฎหมายและมีความคุ้มค่า มีผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่ หากพบความผิดให้ดำเนินการเอาผิดตาม พรป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ต่อไป โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันที่ 14 มีนาคม2562 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน สตง. ถนนพระราม 6 พญาไท กทม.” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ( คปต.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า รมต.ดอน คุณห้ามประชาชนกังวลเรื่องการจัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใสไม่ได้ เพราะผลงานการจัดการเลือกตั้งของ กกต.และกระทรวงการต่างประเทศประจานชัดเจน กระทรวงการต่างประเทศจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ กรณีไม่มีการวางแผนเตรียมจัดการเลือกตั้งอย่างถูกต้องเหมาะสม ทั้งที่ควรจะทราบว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิจำนวนมาก อย่าอ้างข้างๆคูๆว่า ไม่คิดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิกันมากเช่นนี้

ความจริงสถานฑูตไทยในทุกประเทศต่างทราบจำนวนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศนั้นๆ ล่วงหน้าอยู่แล้ว เนื่องจากสถานฑูตมีข้อมูลสำหรับผู้มีถิ่นพำนักในประเทศนั้นๆ สำหรับคนไทยที่ไปอยู่ชั่วคราว ก็ต้องมาแจ้งความประสงค์จะขอใช้สิทธิต่อสถานทูต ทั้งหมดนี้สถานฑูตต่างๆ ย่อมจะทราบจำนวนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมถึงสามารถจะรู้ล่วงหน้าถึงจำนวนผู้ที่จะมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อย่อมทราบล่วงหน้าดังนี้แล้ว ทำไมจึงไม่จัดเตรียมการให้พร้อม ที่ทุเรศคือคูหาเลือกตั้ง ที่มีการเอาลังกระดาษใช้แล้วมาทำเป็นคูหา ทำให้เชื่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดเตรียมการเลือกตั้ง เงินจำนวนหลายพันล้านบาทที่รัฐบาลเอามาให้ใช้ในการจัดการเลือกตั้งมันหายไปไหนหมด จึงไม่มีเงินมาจัดหาคูหาเลือกตั้งให้มันเหมาะสมกว่านี้

ทั้งกกต. และรัฐบาลเผด็จการไม่ต้องมาแก้ตัว ยิ่งแถ ยิ่งบิดเบือนคนจะยิ่งด่า จัดการเลือกตั้งไม่ได้คุณภาพ แถมยังส่อให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส ยังไม่รู้จักสำนึก ยังไม่สำเหนียก

มติชนออนไลน์