ประสิทธิ์ชัย ชี้ 24 มี.ค.เป็นตัววัด ประเทศจะถูกคุมเบ็ดเสร็จด้วยกลุ่มทุน หรือถึงเวลาเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (13 มี.ค.) นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน โพสต์ข้อความแสดงความเห็นทางการเมือง โดยระบุว่า ปัญหาประเทศเรื่องทุนผูดขาด ควบคุมเศรษฐกิจของประเทศนับวันจะยิ่งรุนแรง โดยระบุว่า

เรื่องที่สำคัญที่สุด

คือการควบคุมประเทศนี้ด้วยกลุ่มทุน

การแย่งชิงทางการเมืองมิใช่อะไรอื่น แต่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการคุมระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพราะการคุมระบบเศรษฐกิจจะนำมาซึ่งการคุมทุกสิ่ง

ฉะนั้นเราจงมองให้ชัดว่า4 ปีของพลเอกประยุทธ์ การกระทำของคณะรัฐประหารที่ทุ่มเทที่สุดและยอมไม่ได้คือการเขียนนโยบายและกฎหมายว่าด้วยการคุมระบบเศรษฐกิจและทรัพยากร

มองให้ชัดว่ากฎหมายหลายร้อยฉบับออกมาโดยประชาชนไม่รู้เลย มีความจำเป็นอะไรที่เร่งออกกฎหมายถึงขนาดนั้น รูปธรรมที่ชัดที่สุดคือการมียุทธศาสตร์ชาติที่มีคนกุมสภาพและทุนเป็นผู้เขียนนโยบาย คุมประเทศนี้ไปอีก20ปี ทำไมต้องคุมขนาดนี้

ในส่วนของทรัพยากรนั้น ออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อกุมสภาพทรัพยากรของประเทศเพื่อนำไปสนองระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ออกแบบไว้แล้วไม่ว่าจะตามยุทธศาสตร์ชาติหรือ อีอีซี

หากยังจำกันได้หลายวาระพลเอกประยุทธ์จะปกป้องอีอีซีอย่างแข็งขัน นั่นเป็นกล่องดวงใจสำคัญของระบบทุนทั้งไทยและต่างชาติ เพราะกฎหมายอีอีซีคือการสร้างรัฐอิสระในราชอาณาจักรไทยเพื่อคนกลุ่มเดียว

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะพิสูจน์ว่า

ประเทศนี้จะถูกคุมเบ็ดเสร็จด้วยกลุ่มทุน

หรือว่าถึงเวลานับหนึ่งการเปลี่ยนแปลงประเทศ

นี่มิใช่เรื่องเล่นอีกต่อไปแต่คือวิบากของประชาชน

หมายเหตุ

การยึดประเทศหรือการขายชาติ มิใช่การยึดดินแดนอีกต่อไป เพราะนั่นทำไม่ได้ทั้งเป็นภาระและถูกประนาม แต่การขายชาติในโลกยุคใหม่คือการขายประโยชน์ที่ควรตกอยู่กับสาธารณะให้ไปอยู่กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คนกลุ่มนั้นทั้งที่เป็นคนชาติเดียวกันและคนต่างชาติด้วย นี่คือการขายชาติในโลกยุคใหม่ ไม่ต้องยึดดินแดนแต่ยึดประโยชน์จากประเทศนั้นเข้ากระเป๋า

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐประหาร ขายชาติหรือไม่ จงดูปรากฎการณ์ อีอีซีเป็นคำตอบ พวกเขาสามารถสร้างรัฐอิสระขึ้นในประเทศนี้ได้เพื่อการปรนเปรอคนกลุ่มหนึ่ง แต่ยึดทรัพยากรที่คนส่วนใหญ่ต้องใช้เอาไปด้วย

ภาวะนี้จะคุกคามประเทศนี้หนักขึ้นในรอบ10ปีนี้

นี่คือวิบากของเราคนไทย

 

มติชนออนไลน์