“อลงกรณ์” หาเสียงสระแก้ว ชูการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน เชื่อมโยงรถรางคู่สู่อินโดจีน

 

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม  นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  พร้อมด้วยแกนนำพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ได้ดินทาง ปราศรัยช่วยหาเสียงลูกพรรคที่ อำเภออรัญประเทศ และอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว โดยชูนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เชื่อมโยงรถไฟสี่รางคู่สู่อาเซียน พัฒนาโลจิสติกส์ ยกระดับเศรษฐกิจชายแดน ให้มั่งคั่ง สำหรับบรรยากาศ การปราศรัยหาเสียง ที่บริเวณลานสยามินทร์ หน้าเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ในช่วงเย็น คนเริ่มทยอยเดินทางมาฟังมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยทั้ง 3 คน ได้วิ่งรอก ระหว่าง อำเภออรัญประเทศและอำเภอตาพระยา สลับกับนายจุรินทร์ และ คุณหญิงกัลยา โดยที่อรัญประเทศ มีนายอลงกรณ์ พลบุตร เริ่มปราศรัยก่อน

 

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะมาปราศรัยที่ อรัญประเทศ ได้ไปดูตลาดโรงเกลือ พบว่าเรื่องความสะอาดต้องพัฒนาอีกมาก ด้านเขตเศรษฐกิจพิเศษ ต้องพัฒนาให้มากกว่านี้ ตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ยังเล็กไป ต้องออกแบบสร้างเมืองให้สอดคล้องกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ด้านรถไฟ ควรเป็นสี่รางคู่ เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจ พัฒนาโลจิสติกส์ ยกระดับเศรษฐกิจ ขนคนขนสินค้าใช้เวลาสั้น รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย ทั้งนี้ ต้องมีเสียงสนับสนุน ให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องไม่ทะเลาะ ก้าวข้ามความขัดแย้ง

“การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ในช่วง 10 ปีมานี้ เกิดวิกฤตปัญหา คือ ประชาชนทั้งประทศมีรายได้ปานกลาง มีการผูกขาดทุนขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องขจัดการผูกขาด ชาวนา ชาวสวน เป็นหนี้ ชาวไร่อ้อย ผลิตน้ำตาลส่งออกอันดับ 2 ของโลก สับปะรดอันดับ 1 ของโลก แต่เกษตรกรยังยากจน ถึงเวลาปลดแอก ขจัดระบบพ่อค้าคนกลาง ประกันรายได้ของเกษตรกร จะต้องไม่ขาดทุน พืชผลทุกชนิด ไม่ว่า ข้าว ข้าวโพด ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์ม ข้าวต้องประกันราคา ถ้าต่ำกว่าเกวียนละ 10,000 บาท รัฐต้องชดเชย ยางพาราต้องกิโลละ 60 บาทขึ้นไป สูงกว่ายิ่งดี ประกันรายได้ผู้ใช้แรงงาน ปีละ 120,000 บาท ประกันรายได้ ไม่กระทบต่อราคาสินค้า สร้างค่านิยมใหม่ ป้องกัน ปราบปราม และปลูกฝัง สร้างการเมืองสีขาว สุจริต แก่ประชาชน” นายอลงกรณ์กล่าว

นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า ปัญหาการเมือง ไม่เป็นประชาธิปไตย มานาน แต่พรรคประชาธิปัตย์ และคณะกรรมการ มีมติเสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี คือ หัวหน้าพรรคเป็นระบบสากลทั่วโลก มีพรรคใดไม่เชิดชูหัวหน้าตัวเอง เสนอคนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรี อะไรเกิดขึ้น ประชาธิปัตย์ ตั้งมา 73 ปี เป็นหลักการที่ถูกต้องที่สุด เป็นพรรคมาตรฐานสากล ยึดประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตย ต้องสุจริต การคัดเลือก ส.ส.ต้องได้คนดีมีความรู้ ซื่อสัตย์ หาเสียงมุ่งเน้นนโยบาย จะสร้างการเมืองที่เป็นมาตรฐาน ไม่กลัวแพ้ ชัยชนะของประเทศสำคัญกว่า ขอเป็นการเลือกตั้งเพื่ออนาคต ไม่ใช่เริ่มต้นสืบทอดอำนาจ เหมือนหลายปีที่ผ่านมา บ้านเมืองมีอิทธิพล ไม่มีใครมาลงทุน กลัวอิทธิพล ให้เป็นตัวอย่างมาแล้ว เราวังวนอยู่กับการเมืองที่ทุจริต การเลือกตั้งครั้งนี้ ขอเป็นผู้แทนราษฎรที่ดี ความดีไม่มีอะไรซื้อได้ ประชาธิปัตย์ ยึดประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต

มติชนออนไลน์