“โกวิฐ” หาเสียงบ้านเกิดเมืองสุรินทร์ “จตุพร” ไม่ขอวิจารณ์ ปมยุบ “ทษช.” ย้ำประชาธิปไตยไม่มีวันตาย

วันที่ 8 มีนาคม 2562 พรรคเพื่อชาติ นำโดย นายอารี ไกรนรา ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติและคณะผู้บริหารพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ช่วย นายโกวิฐ วัฒนกุล ผู้สมัคร ส.ส. พรรค เขต 4 เบอร์ 13 หาเสียง โดยเวทีแรก มีการปราศรัย ที่ สวนเฉลิมพระเกียรติ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ มีพี่น้องประชาชนให้การต้องรับและร่วมฟังการปราศรัยกันเป็นจำนวนกว่า 3 พันคน

นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้จะเดินสายพบพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ทั้งวัน เริ่มต้นที่เขตของนายโกวิฐ ซึ่งเป็นผู้สมัครที่พรรคมีความหวังว่าจะได้รับชัยชนะในเขตเลือกตั้งนี้และทราบมาว่าเขตนี้พี่น้องประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งระยะที่เหลือในสองสัปดาห์นี้ จะเป็นเวลาที่นายโกวิฐจะได้เดินสายพบพี่น้องประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียง ตนคาดหวังว่าประชาชนจะเลือกนายโกวิทในฐานะที่เป็นดาราและเป็นนักประชาธิปไตยที่มีความคิดทางการเมืองในสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

ทั้งนี้ นายจตุพร ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ และแอมเนสตี้ฯอินเตอร์เนชั่นแนล มองคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติสะท้อนว่าประเทศไทยใช้อำนาจตามกระบวนยุติธรรมมิชอบเพื่อจำกัดเสรีภาพ กระทบสิทธิมนุษยชน ช่วงก่อนการเลือกตั้ง ว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสร็จสิ้นแล้วถือว่าเป็นที่ยุติ และต้องยอมรับความเป็นจริง รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับก็เขียนบังคับเอาไว้ว่าคำวินิจฉัยนั้นผูกพันกับทุกองค์กร / ตนเคยพูดในที่ประชุมสภาหลายครั้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลการเมืองที่สามารถวิจารณ์ได้แต่ขณะนี้ในกรณีนี้ตนมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรู้สึกของประชาชน จึงไม่ขอพูดว่าการพิจารณานั้นขั้นตอนเป็นอย่างไร แต่ถือเป็นการเสร็จสิ้นแล้วและทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้

ขณะที่ พี่น้องในพรรคไทยรักษาชาติ ล้วนเป็นคนผ่านการถูกยุบพรรคมาแล้วถึงสองครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม โดยสมัยพรรคไทยรักไทยถูกยุบ สมาชิกพรรคกว่า 14 ล้านก็ถูกตัดสิทธิ สิ้นสภาพการเมือง ตนเชื่อว่าคนในพรรค ทษช. ย่อมเข้าใจและทำใจได้ ตนจึงเข้าใจ และให้กำลังใจ อีกทั้งผู้สมัครทั้งบัญชีรายชื่อและเขตต่างรู้สึกเจ็บปวดกันทั้งนั้น แต่คนที่เจ็บปวดมากกว่าพรรคคือประชาชน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องให้เวลา และเยียวยาหัวใจประชาชนพร้อมมองว่าการถูกยุบพรรคไม่ใช่ทางตันหรือไปไหนไม่ได้ ดังนั้นถ้ากรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติยังปรารถนาที่จะรับใช้แผ่นดินก็ยังสามารถกระทำในหน้าที่อื่นๆได้มากมายเหมือนอย่างที่ตนทำอยู่ในขณะนี้

นายจตุพรกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับเพื่อนๆในพรรคไทยรักษาชาติ ดังนั้นควรให้เวลาทุกคนในพรรคได้ตั้งหลักก่อน ส่วนคะแนนที่เป็นของพรรคไทยรักษาชาติต้องไม่คิดที่จะรีบเร่งไปหาคะแนนวันนี้กำลังอยู่ในสภาวะของความสูญเสีย แต่บทเรียนที่ผ่านการยุบพรรคไม่ได้ทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยจบลงฝ่ายประชาธิปไตยจะไม่มีวันตาย ดังนั้นเมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็มีพรรคพลังประชาชน เมื่อยุบพรรคพลังประชาชนก็มีเพื่อไทย และมีบทเรียนที่สำคัญว่าตอนพรรคพลังประชาชนถูกยุบเป็นยุบหลังการเลือกตั้ง กรรมการบริหารที่สิ้นสภาพขณะนั้นในพื้นที่หาคนสังกัดพรรค 90 วันแทบไม่ทัน บางเขตมีแค่ คนเดียวแต่ก็ต้องส่งลงสมัคร และประชาชนก็เลือกเหมือนเดิม ดังนั้น ประชาชนไม่ได้สนใจว่าเป็นใคร แต่เมื่อที่ต้องการประชาธิปไตยถึงเวลาประชาชนจะรู้เองว่าควรจัดการอย่างไร

ด้าน นายโกวิฐ ผู้สมัคร ส.ส. พรรค เขต 4ให้สัมภาษณ์น้ำตาคลอ ว่า ไม่ได้เห็นความสำคัญในการเป็นดารา เป็นนักแสดง แต่เมื่อตนลงมาสัมผัสกับประชาชน ทำให้รู้สึกว่ามีค่ามหามาศาล ความรักความชอบจากพี่น้องประชาชนได้รับมาอย่างล้นเหลือ จากที่ไม่มีความหวังเท่าไร เพราะงบประมานจำกัด แต่เมื่อมาเจอพี่น้องประชาชน ทำให้มีแรงขึ้นมาทันที ทั้งนี้การลงพื้นที่ในแต่ละครั้งการตอบรับจากประชาชนดีมากอย่างคาดไม่ถึง ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ถ้าได้รับเลือกเป็นตัวแทนประชาชน นโยบายส่วนตัวนั้นในฐานะที่เป็นเด็กทุ่งกุลา ซึ่งมีข้าวหอมมะลิ ตนจะทำข้าวหอมมะลิให้ดังระดับโลกให้ได้ อีกทั้งถนนท่าตูม แคบมาก เห็นเด็กนักเรียนขับรถจะตกไหล่ทางทุกครั้งซึ่งฝั่นมาโดยตลอดถ้าได้เป็น ส.ส. จะขยายถนนให้ได้