‘สุริยะ’ลุยร้อยเอ็ดช่วย’เอกภาพ-รัชนี พลซื่อ’หาเสียง มั่นใจได้ 150 ส.ส.

ประธานยุทธศาสตร์อีสานพลังประชารัฐช่วย 2 ผู้สมัคร’เอกภาพ-รัชนี พลซื่อ’หวังเบียดเข้าสภา นำดอกไม้ธูปเทียนขัน 5 กราบบูชาผู้สูงอายุ ขอคะแนน หลัง ชูนโยบายเติมเงินชาวนา ช่วยทั้งค่าปลูก-เกี่ยว-เก็บ และราคาผลผลิต รวมทั้งขยายเขตอุตสาหกรรม ตั้งโรงงานอีสานหลายจังหวัดเพื่อลดการอพยพแรงงาน มั่นใจได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปที่ห้องประชุมใหญ่ โรงแรมสาเกตุฮอลล์ อ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อขึ้นเวทีปราศรัย ของนายเอกภาพ พลซื่อ ผู้สมัครสส.เขต 3 ซึ่งจัดเวทีหาเสียง ช่วยภรรยา คือนางรัชนี พลซื่อ ผู้สมัครเขต 2 ซึ่งเชิญกลุ่มประชาชนผู้สูงอายุ จาก 8 ตำบล ของ อ.ธวัชบุรี กว่า 3000 คน ของเขตเลือกตั้งที่ 2 มารับฟังการปราศรัย

พร้อมกันนั้น นายเอกภาพ ได้นำนางรัชนี ภรรยาพร้อมกับ ลูกชาย นำดอกไม้ ธูปทียน และขัน 5 ตามประเพณีคนอีสาน ทำพิธีกราบขอพร ฝากเนื้อฝากตัวกับตัวแทนผู้สูงอายุ และขออาสาให้ประชาชนและผู้สูงอายุเลือกเข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ อาสาเข้าไปเป็น ส.ส.เพื่ออาสา ดูแล แก้ปัญหาของประชาชนและหลังจากก่อนจะสิ้นสุดการปราศรัย แถลง นโยบายข้าว ซึ่งเป็นจุดขายเพื่อชาวนา ด้วยการเติมเงินบาทแรกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากฐานราก เริ่มจากเกษตรกร ต่อยอดนโยบายรัฐบาล ที่ทำมาแล้วให้เดินกน้าต่อไป โดยเพิ่มค่าเกี่ยวจากเดิมไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เป็นไร่ละ 2,000 บาท ช่วยค่าเตรียมดิน 1,500 บาท ช่วยชาวนาให้มียุ้งฉางเก็บข้าว เพื่อลดปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดเพื่อรอราคา และให้ค่าเก็บรักษา 1,500 บาท ต่อตัน และเพิ่มค่าปลูกและค่่าเกี่ยวเป็นตัน ก็จะอยู่ที่ตันละ 5,800 บาท

และนอกจากนั้น เมื่อเป็นรัฐบาล ยังจะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากเดิม ให้ เริ่มต้นที่ 1,000 บาท/เดือนทันทีทุกคน ส่วน นโยบายเรื่องข้าวครั้งนี้ทางพรรค จะป้องกันการทุจริต และต้องการให้เงินทุกบาททุกสตางค์ ถึงมือพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ให้กับเกษตรกร ซึ่งมีการลงทะเบียนไว้แล้ว โดยจะไม่เกิดการสุ่มเสี่ยงต่อการทุจริต ด้านการเวียนเทียนจำนำข้าว หรือนำข้าวจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ ทำให้เกิดการทุจริตและทำให้เกิดการเสียหายต่องบประมาณของแผ่นดินดังเช่นรัฐบาลอื่น

นายสุริยะเดินทางไปช่วย นางรัชนี พลซื่อ ผู้สมัครพรรคเขต 2 และนายเอกภาพ พลซื่อ สามี นางรัชนี ผู้สมัครเขต 3 ซึ่งเป็นตัวเต็ง แข่งกับผู้สมัครพรรคเพื่อไทย คือนายฉลาด ขามช่วงเขต 2 และนายนิรมิต สุจารี เขต 3ให้สัมภาษณ์กัว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายกระจายการสร้างงานสร้างอาชีพ ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในภาคอีสาน ให้เพิ่มมากขึ้นหลายพื้นที่ ในภาคอีสาน รวมทั้งพื้นที่ ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อแก้ปัญหา การอพยพแรงงาน จากภูมิภาค เข้าสู่เมืองหลวง หรือโรงงานอุตสาหกรรม ในภาคกลาง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันครอบครัว เกิดความอบอุ่น ได้เกิดการดูแลเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน แล้วสร้างครอบครัวที่เป็นสุข ที่ได้ทำงาน มีรายได้ อยู่ในบ้านของตนเอง พร้อมกันนั้น ก็ยังเน้นย้ำ การเดินหน้าต่อ ด้านการพัฒนาภาคการเกษตร สานต่อนโยบายของรัฐบาล ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำดีอยู่แล้วต่อไป ให้มีการเดินหน้า รวมทั้งการเพิ่มราคาผลผลิต ทางการเกษตรทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายข้าว ซึ่งรัฐบาลทำอยู่แล้ว ก็จะเข้ามาเสริมให้ความช่วยเหลือ หลังจากได้มีการจัดตั้งรัฐบาล สนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ ได้ทำงานต่อ ในฐานะผู้นำรัฐบาล ด้วยการเข้าไปต่อยอด ในนโยบาย สนับสนุน การทำนา และเพิ่มราคาข้าวให้สูงขึ้น เพื่อช่วยคนอีสาน ที่ทำการเกษตรและทำนา ให้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และนโยบายดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้พรรคพลังประชารัฐ ที่มีนโยบายตรงกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ มั่นใจว่า จะได้ ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ ไม่ต่ำกว่า 150 คน เข้าไปทำหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ประชาชนทั่วประเทศ หลังการเลือกตั้ง ต่อไป

มติชนออนไลน์