ปลดฟ้าผ่า “พิธีกร ช่อง 9” พ้นรายการดีเบต จุดเริ่มต้น-ปฏิกิริยาที่ตามมา

การปลดแบบฟ้าผ่ากับพิธีกรรายการดีเบตการเมืองของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็วทันที และอาจสะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์เสรีภาพสื่อของไทยยังคงต้องเผชิญกับความเลวร้ายจากการใช้อำนาจตามอำเภอใจ ยิ่งช่วงการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นและบรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มข้น ยิ่งเป็นเรื่องเสี่ยงต่อการใช้อำนาจกดทับเสรีภาพในการทำงานของสื่อมวลชน

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ อรวรรณ ชูดี สื่อมวลชนอาวุโสและผู้ดำเนินรายการศึกเลือกตั้ง 62 ที่จัดร่วมกับนายวีรภัทร์ ธีระภัทรานนท์ หรือที่รู้จักในรายการคลื่นวิทยุในชื่อ “อ.วีระ ธีรภัทร์” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเมื่อช่วงค่ำเมื่อวานนี้ว่า ได้ถูกบอร์ด อสมท.และผู้บริหาร ยุติการทำหน้าที่ โดยอรวรรณให้รายละเอียดที่นำไปสู่การสั่งปลดกระทันหันนี้ว่า

คารวะพลังบริสุทธิ์ของน้องๆนิสิต นศ.ทั้ง 100 คนในห้องส่ง จาก 16 สถาบันทั้งในกทม.เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ที่แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองในรายการดีเบตของช่อง 9 เมื่อคืนวานหัวข้อ”คนใหม่..การเมืองใหม่”ร่วมกับตัวแทนผู้สมัครหน้าใหม่ 10 คน 10 พรรคการเมือง ในคำถามดังต่อไปนี้
1.เห็นด้วยหรือไม่ที่พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจไม่ร่วมการดีเบต
เห็นด้วย 6 เสียง ไม่เห็นด้วย 94 เสียง
2.เห็นด้วยหรือไม่ ที่รธน.60 ในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกให้ ส.ว. 250 คนร่วมโหวตเลือกนายกฯ
เห็นด้วย 1 เสียง ไม่เห็นด้วย 99 เสียง
3. เห็นด้วยหรือไม่ เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จำเป็นสำหรับประเทศไทย
เห็นด้วย 2 เสียง ไม่เห็นด้วย 98 เสียง
4.เห็นด้วยหรือไม่ ว่าประเทศไทยจะมีการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มใบหรือครึ่งใบก็ได้ ถ้าทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น
เห็นด้วย 17 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง

พวกเขาไม่ทราบคำถามล่วงหน้า มีเพียงข้าวกล่องและรถรับส่ง ในการมาร่วมรายการ แต่ 100 เสียงในคืนวันที่ 28 ก.พ.62 ของเหล่าเฟิร์สโหวตเตอร์เหล่านี้ กำลังขย่มขวัญไปถึงผู้มีอำนาจ จนมองว่านี่คือการชี้นำโจมตีรัฐบาล ทั้งที่เป็นประเด็นที่คนไทยทั้งประเทศมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นต่ออนาคตของพวกเราทุกคน

ในฐานะ 1 ในพิธีกร และผู้ทำหน้าที่คิดรูปแบบรายการดีเบต ทั้ง 2 ครั้งของช่อง9 ขอยอมรับการตัดสินใจของ
บอร์ดอสมทและผู้บริหารในการให้ยุติการทำหน้าที่ ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา

แต่ในฐานะ วิชาชีพสื่อสารมวลชนที่มีอายุงานเกือบ 30 ปี ดิฉันไม่ยินยอมรับการตราหน้าว่าทำหน้าที่ลำเอียง และขอขอบคุณต่อเสียงตอบรับในแง่ดีจากผู้ชมทีวีต่อรายการดีเบตของช่อง9เมื่อคืนที่ผ่านมา ณ โอกาสนี้

แหล่งข่าวภายใน อสมท. ระบุว่า คำสั่งให้ผู้ดำเนินรายการยุติการทำหน้าที่มาจาก พล.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนปัจจุบัน

เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตามมาทั้งจากสื่อมวลชนและพรรคการเมือง เริ่มจาก นารากร ติยายน ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้ออกมาให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

ได้ยินข่าวพิธีกรรายการดีเบตของช่อง 30 อสมท.ถูกบอร์ดฯ ปลดจากการทำหน้าที่ คือปลดทั้ง 2 คน ทั้ง อ.วีระ และคุณอรวรรณ

ทีแรกไม่เชื่อ เพราะได้ดูรายการดีเบตนี้เมื่อคืนวันที่ 28 ยอมรับเลยว่าเป็นรายการดีเบตที่ดีมากๆ มีความคิดสร้างสรรทำให้รายการดูสนุกและมีสาระ ฉีกกฏเดิมๆ ของอสมท. ไปเลย

ในขณะที่รายการดีเบตของช่องวัน 31 คืนก่อนหน้านั้น (วันที่ 27) เป็นรายการดีเบตที่ “กาก” มาก คนด่าพิธีกรทั้ง 2 คน 99% แถมรายการ 2 ชม.กว่าๆ ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรที่ประเทืองปัญญาเลย มีแต่เสี้ยมเรื่องความขัดแย้ง

ได้ยินมาว่าผู้บริหารช่องโกรธมาก แต่สุดท้าย ….. พิธีกรที่โดนคนดูระดมด่าทั้ง social คนนั้น ยังคงนั่งที่เดิมในคืนต่อมา

ในสภาวะที่สื่อต้องเลือกทางอยู่รอด ขอเป็นอีกคนที่ส่งกำลังใจไปให้ อ.วีระ และคุณอรวรรณ

นี่คือตัวอย่างชัดเจนของคำว่า
“ถูกต้อง แต่ ไม่ถูกใจ”

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้ออกมาแสดงความกังวลนี้ผ่านทวิตเตอร์ว่า หากข่าวเป็นจริง ผมก็ขอเป็นกำลังใจและยืนหยัดเคียงข้างคุณอรวรรณ-คุณวีระที่ทำหน้าที่สื่อฯ ได้อย่างดีสุดความสามารถตามจรรยาบรรณวิชาชีพ ทั้งสองมีความคิดสร้างสรรค์ กล้านำเสนอ ทำให้เป็นรายการที่ดูสนุกมีสาระมาก ผมขอประณามการกระทำใดๆ ที่ปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนและสื่อมวลชน

ขณะที่ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติและอดีตผู้ประกาศข่าวช่องสปริงนิวส์กล่าวว่า ในฐานะที่เดียร์เป็นสื่อมวลชนมาก่อน และมาเป็นนักการเมืองในพรรคเพื่อชาติที่มีจุดยืนเพื่อแก้ไขความขัดแย้งของประเทศ ด้วยนโยบายทลายกำแพงใจ ที่ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องลดทิฐิ หันหน้ามาเจรจากันยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง พิจารณาความผิดฝ่ายตน และชื่นชมความดีฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้

เดียร์รู้สึกเสียใจมากที่เห็นข่าวปลดพี่อรวรรณ ชูดี ในขณะที่กำลังจะมีการเลือกตั้งซึ่งพรรคการเมืองส่วนใหญ่จะหาเสียงว่าด้วยการชูนโยบายแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่กรณีนี้พี่อรวรรณพิธีกรไม่ได้ลำเอียง

ส่วน นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัครส.ส.เขตบางกระปิ-วังทองหลาง พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์แสดงความเห็น โดยระบุว่า

“รู้สึกตกใจ เมื่อทราบข่าวว่า ‘พี่ตุ๊ก อรวรรณ’ ผู้สื่อข่าวช่อง โมเดิร์น ไนน์ ทีวี ถูกบอร์ด อสมท. และผู้บริหารสั่งให้ยุติการทำหน้าที่ ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีเหตุมาจากรายการที่ดีเบต “ประชันวิสัยทัศน์ คนรุ่นใหม่ การเมืองไทยในความคิดของคนรุ่นใหม่ ควรเป็นอย่างไร” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหรือไม่

แต่หากเหตุผลที่โดนปลดครั้งนี้ เป็นเพราะคำถามทั่วไป แต่คำตอบดันไม่เข้าหูฝ่ายผู้มีอำนาจ ผมอยากฝากถามบอร์ดที่มีมติดังกล่าวว่า พวกท่านตั้งใจให้เยาวชนของชาติตอบคำถามตามความต้องการของใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้นหรือ? การที่น้องๆนักศึกษาทั้ง 100 คนในห้องส่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด และมีเสรีภาพทางความคิด เป็นสิ่งที่พวกท่านไม่ต้องการเห็นใช่หรือไม่ หรือท่านอยากเห็นคนไทยอยู่แต่ในกะลา ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าส่งเสียงจากความรู้สึกนึกคิดอย่างนั้นหรือ? เพราะเท่าที่ผมซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ร่วมอยู่บนเวทีดีเบตในวันดังกล่าวรู้สึกว่า คำถามแค่ละคำถามในรายการดีเบตวันนั้น เป็นคำถามที่พี่น้องประชาชนอยากรู้ จึงได้ส่งคำถามจากทางบ้านเข้ามาทั้งสิ้น

ผมในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมดีเบต และเพื่อนนักการเมืองจากพรรคอื่นที่ร่วมดีเบตในวันนั้น รวมถึงพี่น้องที่รับชม ต่างพูดชมรายการดีเบตว่ามีรูปแบบรายการที่น่าสนใจ ทำออกมาได้ดีในรูปแบบของการดีเบตกันของคนรุ่นใหม่ และการที่ได้ฟังความคิดเห็นของน้องๆนักศึกษาจากหลายมหาลัยกว่า 100 คน ในห้องส่งซึ่งไม่ใช่ความคิดจากตัวแทนพรรคการเมืองอย่างเดียว ถือว่าแฟร์ และเป็นกลางอย่างมาก

ฉะนั้น หากเหตุผลที่ทำให้ ‘พี่ตุ๊ก อรวรรณ’ โดนปลด มีสาเหตุมาจากรายการดีเบต ผมคิดว่า บอร์ด อสมท.ทุกท่าน ต้องทบทวนถึงคุณค่าของคำว่า “สื่อมวลชน” อีกครั้ง และท่านต้องคิดให้หนักว่าท่านทำงาน “เพื่อมวลชน” หรือ “เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง” หรือ “ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” วันนี้ แม้ท่านจะเป็นกลางไม่ได้ แต่ท่านสามารถเป็นธรรมได้นะครับ”

นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษารายหนึ่งที่ร่วมรายการในห้องส่งวันดังกล่าวได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า

“ผมเป็น 1 ในนักศึกษาที่เป็น first voter ของรายการ ตอนที่อาจารย์มาแนะนำให้ไป ผมก็เข้าใจว่าเป็นไปนั่งดูการดีเบตกันเฉยๆไม่คิดว่าจะมีส่วนร่วมแบบนี้ ดังนั้นผลโหวตที่ออกมาจากเพื่อนๆนักศึกษาอีก 99 คน มันออกมาจากความคิดของพวกเราจริงๆ ไม่มีการชักนำหรือการบังคับให้ยกป้ายใดๆทั้งนั้น”

ทั้งนี้ ล่าสุด นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงาน บมจ. อสมท ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ทางสหภาพฯ ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีคำสั่งให้นางอรวรรณ ยุติการทำหน้าที่พิธีกรเพราะเหตุผลใด ซึ่งการดำเนินรายการเมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับเสียงชื่นชมจากคนส่วนใหญ่ในสังคม และเป็นการดำเนินการตามกรอบวิชาชีพ ถ้าไม่มีคำอธิบาย ก็มองได้ว่ามีขบวนการแทรกแซงการทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณของสื่อสารมวลชน ซึ่งส่งผลต่อการได้รับข้อมูลข้อข่าวสารที่ประชาชนจะนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้ง

“เบื้องต้นจะดูคำสั่งที่ออกมาว่าจริงหรือไม่ และหากไม่มีเหตุผลเพียงพอ หรือทบทวนคำสั่ง ทางสหภาพฯจะเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์เรียกร้องการคุ้มครองการทำงานตามกรอบวิชาชีพ” นายสุวิทย์กล่าว