“เพื่อชาติ” ลงพื้นที่ดินแดง-ห้วยขวาง ปชช.ต้อนรับคึกคัก “จตุพร” ชี้ ทหารควรเป็นรั้วของชาติ ไม่ใช่มาบริหาร

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 พรรคเพื่อชาติ นำโดย นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรค พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกพรรคเพื่อชาติ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรค ได้ลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เขต 5 นางสาวสาวิตรี สาทสุทธิ เบอร์ 14 ขอโอกาสจากพี่น้องประชาชน ที่ ตลาดดินแดง จากนั้นต่อด้วยตลาดห้วยขวาง

นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ทางพรรคเพื่อชาติ ได้นำคณะลงพื้นที่ ช่วย นางสาวสาวิตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำงานในชุมชน รับใช้พี่น้องประชาชน คนยากคนจนกันมาโดยตลอด และเป็นปรากฏการณ์แทบทุกตลาดก็ว่าได้ คือพี่น้องประชาชนได้ให้การตอบรับพรรคเพื่อชาติเป็นอย่างดี และตนเองก็บอกกับสาวิตรีว่า ถ้ามีโอกาสจะได้มาแห่ หรือมาเดินกันอีกรอบหนึ่ง เพื่อขอแรงสนับสนุน ระยะเวลาถัดจากนี้ไป เราเหลือระยะเวลาอีกเพียงแค่ 24 วัน จะเป็น 24 วันที่ทรงคุณค่ามากที่สุด ณ วันนี้ประชาชนยังไม่มีคำตอบสุดท้าย เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่จะเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจของประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นคำตอบในวันที่ 7 มีนาคม เรื่องการยุบบางพรรคการเมือง ก็จะส่งผลทางการเมืองเช่นเดียวกัน ซึ่งทางพรรคเพื่อชาติจะกระจายทีมออกไปตามภูมิภาคต่าง ๆ เฉกเช่นกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ซึ่งต้องยอมรับความเป็นจริงว่า พื้นที่ที่กว้างขวาง 350 เขต การเลือกตั้งนั้น ยากที่จะไปได้ทั่วถึง ซึ่งเราก็พยายามทำหน้าที่ และตนเองก็รับทราบจากศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง คงจะได้จัดกิจกรรมให้ทั่วถึงมากขึ้น และก็คงจะได้ใช้ช่องทางการสื่อสารทาง Social Media และสื่อกระแสหลักเพื่อที่จะทำความเข้าใจในช่วง ใกล้โค้งสุดท้ายอันนี้

ทั้งนี้ นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่ พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลางโหม แถลงข่าว วอนพรรคการเมืองอย่าใช้นโยบายเลิกการเกณฑ์ทหาร ในการหาเสียง ว่า ท่านได้ออกมาพูดในเรื่องนี้ เนื่องจากมีการนำเสนอนโยบาย เรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ตนเองก็เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหารในสภาผู้แทนราษฎร จึงมีความเข้าใจในเรื่องการเกณฑ์ทหารเป็นอย่างดี ตนได้เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับอดีตผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในประเด็นเกี่ยวกับการสร้างทหารอาสา หมายความว่าเราจะได้บุคคลที่มีความเต็มใจ ที่จะเป็นทหารรับใช้ชาติ และใช้หลักคิดว่า ทุกอาชีพต่างก็รับใช้ชาติได้ มิใช่ว่าจะต้องไปเป็นทหารแค่อย่างเดียว ในวัย 21 ปีตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องไปเกณฑ์ทหาร ตนเห็นว่าในวันนี้ประเทศไทยเราไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องเกณฑ์ทหารเพราะในบางพื้นที่ มีคนสมัครมากกว่าจำนวนที่เกณฑ์ และที่สำคัญก็คือว่า ขณะนี้เรามิได้มีศึกสงคราม

นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า การจะเป็นนักรบต้องมีความเต็มใจและมีความหมายมุ่ง การจะจับคนที่มีความถนัดอีกสาขาหนึ่ง ไปเป็นทหารมันไม่สอดคล้องกัน เพราะชาติจะต้องประกอบด้วยประชาชนทุกฝ่าย ทหารต้องทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติ เวลานี้เมื่อทหารมาบริหารชาติ เห็นหรือไม่ เศรษฐกิจก็ทรุด ทหารถ้าไปอยู่ตามแนวชายแดนเป็นรั้วก็จะทำหน้าที่เป็นอย่างดี เพราะตรงกับอาชีพ แต่ทันทีที่ย้ายรั้วมาไว้ที่ห้องรับแขก เศรษฐกิจพังพินาศหมด เพราะการทำงานที่ผิดหน้าที่ ซึ่งเป็นการชัดเจนแล้วว่า 5 ปีนี้งานที่ทหารไม่ถนัดก็คือการบริหารประเทศ ทหารฝึกเอาไว้รบ ไม่ใช่มาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และตนยัง เชื่อว่า หากมีการบริหารจัดการ จัดระบบ จำนวนทหารอาสา ที่กองทัพมีความต้องการ ก็จะเพียงพอกับปริมาณ จะไม่ตกหล่น ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหารอีกต่อไป

สำหรับกิจกรรมในช่วงเย็น ทางพรรคเพื่อชาติ ก็ยังคงมีกำหนดการลงพื้นที่ เขต 4 คลองเตย วัฒนา ช่วยผู้สมัคร นายบุญเลิศ นุ้ยเมือง ที่ ชุมชนแฟลต 1-10 , ชุมชน 70 ไร่ , ชุมชนแฟลต 1-18 คลองเตย และ ชุมชนวัดวิเศษ เอกมัย เขตวัฒนา