“ทษช.” ลงบางขุนเทียน นั่งเรือดูน้ำกัดเซาะชายฝั่ง ย้ำสู้คดียุบพรรคในชั้นศาลเท่านั้น

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อเวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจ นพ.เหวง โตจิราการ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ลงพื้นที่ช่วย นางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่ ผู้สมัครเขตบางขุนเทียนหาเสียงที่ตลาดเช้าชุมชนชายทะเล เขตบางขุนเทียน โดยนายจาตุรนต์ได้ชงกาแฟโบราณดื่มเอง ก่อนลงเรือดูการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง นำเสนอนโยบายแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เพราะปัจจุบันมีที่ดินถูกกัดเซาะไปกว่า 5 พันไร่ กินเนื้อที่บ้านเรือนประชาชนไปกว่า 4 กิโลเมตร

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า วันนี้จะมาพูด 2-3 ประเด็น ว่าการไปหาเสียงได้พบอะไรมาบ้าง การที่รองฯวิษณุตั้งคำถามให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปดีเบต และการดำเนินการกิจกรรมการหาเสียงของพรรคไทยรักษาชาติ ตอนนี้กำหนดการลงพื้นที่ปราศรัยของเรามีไปจนถึงวันที่ 17 มี.ค.แล้ว และเราก็จะกำหนดกันต่อไป การลงพื้นที่ของเราแต่ละครั้งได้รับการต้อนรับและสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก และมีการตั้งคำถามว่า เราจะสู้แค่ไหน และสู้ไปอย่างไร ขอชี้แจงอย่างชัดเจนว่า แผนการรณรงค์การหาเสียงทั้งหมด ในการปราศรัยจะมีเนื้อหาพูดถึงนโยบายการแก้ปัญหาประเทศ ความจำเป็นที่จะต้องเลือกพรรคทางฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. และประเด็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องที่ กกต.ยื่นยุบพรรค เราจะสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น และเราจะสู้ในประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่าพรรคไทยรักษาชาติเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและทนายได้ดำเนินการในขั้นตอนนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียง

กรณีที่ รองฯวิษณุ ได้ตั้งคำถามให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปดีเบตนั้น มีประเด็นข้อสงสัยว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในฐานะอะไร ข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง ใช่หรือไม่ แล้วถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์รับคำไปดีเบตจริง จะพูดนโยบายของตนเอง หรือของพรรคพลังประชารัฐ การพูดแทน ส.ว. 250 คน เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสับสนทางวิธีคิดและวิธีการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ และรองฯวิษณุ จึงสันนิษฐานว่า การที่รองฯวิษณุพูดแบบนี้ เป็นการหาทางออกให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องไปดีเบต หรือเป็นการผูกมิตรทางการเมืองกับ 250 ส.ว.

“วันนี้ประชาชนมีความรู้สึกร่วมกันว่าเศรษฐกิจแย่ เดือดร้อนกันไปหมด และทนไม่ไหวแล้ว เสียงสะท้อนกลับมารุนแรงขึ้นทุกวัน การบริหารงานของรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเสียที และไม่สามารถปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศต่อไปได้” นายจาตุรนต์ กล่าว

ด้านนายณัฐวุฒิ ยืนยันว่าโปรแกรมการลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงของพรรคมีอย่างต่อเนื่อง และภารกิจการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไม่เกี่ยวข้องกับคดียุบพรรค ซึ่งในวันที่ 1 มี.ค.นี้ จะมีการปราศรัยใหญ่ในเขตพื้นที่ กทม. ที่ลานคนเมือง

“พวกผมดูแลผู้สมัครซึ่งดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้อง และมีสิทธิครบถ้วนเหมือนกับผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดียุบพรรค เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน อยากชี้แจงให้เข้าใจในส่วนนี้ กรณี กกต.ยื่นยุบพรรค ตอนนี้เข้าใจว่าทางฝ่ายกฎหมายน่าจะดำเนินการทุกอย่างภายใต้กรอบกฎหมาย ส่วนในวันพรุ่งนี้เรายังไม่ทราบขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเราที่เป็นสมาชิกพรรคก็จะติดตามเรื่องนี้เช่นกัน ไม่มีการลงพื้นที่ แต่หลังจากนั้นเราก็จะเตรียมการดำเนินการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซึ่งเป็นภารกิจของพวกเราต่อไป” นายณัฐวุฒิ กล่าว