เดี๋ยวก็รู้! “หมวดเจี๊ยบ” ชี้รอดูหลังเลือกตั้ง ส.ว.250 จะเป็นหุ่นยนต์รอ “ประยุทธ์” สั่งหรือไม่

รองโฆษกพรรคเพื่อไทยชี้ 250 ส.ว. จะมีสมองหรือรักประเทศชาติหรือไม่ ก็ต้องรอดูหลังการเลือกตั้งว่าจะทำตัวเป็นหุ่นยนต์ยืนรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กดปุ่มสั่งหันซ้านหันขวาหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับเองว่า 250 ส.ว ลากตั้งเป็นเครือข่ายของตนเอง ถือว่าไร้ยางอายทางการเมือง เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า 250 ส.ว.
จะมีสมองหรือรักประเทศชาติหรือไม่ ก็ต้องรอดูหลังการเลือกตั้งว่าจะฟังเสียงคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ส่งสัญญาณผ่านการเลือกตั้ง หรือจะทำตัวเป็นหุ่นยนต์ยืนรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กดปุ่มว่าจะให้ยกมือแบบไหน ทั้งนี้ ส.ว.ทั้ง 250 คน มีสิทธิ์ยกมือโหวตเลือกนายกฯได้ แต่กลับถูกแต่งตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งก็เป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐด้วย จึงถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้ง เแล้วจะไม่ให้ชาวบ้านมองว่า 250 ส.ว เป็นฐานเสียงส่วนตัวของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อสืบทอดอำนาจได้อย่างไร

“เพราะ พล.อ.ประยุทธ์สามารถล็อกสเปก และคัดเลือก ส.ว สรรหาเหล่านี้เองกับมือ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยอมรับเองว่า 250 ส.ว. กลุ่มนี้เป็นเครือข่ายของตน ถือว่าไร้ยางอายทางการเมืองเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกันอย่างชัดเจน ทั้งยังสะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีอภิสิทธิ์เหนือคนไทยทั้งประเทศ เพราะคนไทย 77 ล้านคน มีสิทธิ์เลือก ส.ส. ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ เพียง 500 คน เท่านั้น แต่ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว มีสิทธิ์เลือก ส.ว. ได้ถึง 250 คน หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้แทนทั้งหมดที่คนไทยทั้งประเทศมีสิทธิ์เลือก แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวมีเสียงเท่ากับคนไทย 36.5 ล้านคนเชียวหรือ แบบนี้ มันเท่าเทียมกันตรงไหน เพราะมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจนก็ควรจะมี 1 สิทธิ 1 เสียงเท่ากัน แล้วทำไมเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวจึงดังเท่ากับคนไทยครึ่งประเทศ” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

นอกจากนี้ ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าเปรียบเป็นละคร ก็เป็นฉากสำคัญที่เฉลยตอนจบให้คนดูเข้าใจว่าทำไมตอนทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 2560 จึงมีการพ่วงคำถามกำกวมเรื่องการให้อำนาจสองสภามีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะพอมีคนทักท้วงเรื่องความชอบธรรมของ 250 ส.ว.สรรหา ก็จะมีคนอ้างถึงผลประชามติทันที ทั้ง ๆ ที่ ในช่วงนั้นมีการใช้กฎหมายปิดปากผู้วิจารณ์การใส่คำถามพ่วง ทำให้คนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจว่าผลของการรับร่างรัฐธรรมนูญ คือการมัดมือชกให้ประชาชนต้องยอมรับ ส.ว.สรรหา ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้นมีสิทธิ์เลือก ให้มาสานต่อภารกิจสืบทอดอำนาจเผด็จการที่วางหมากเอาไว้ตั้งแต่วันแรกๆ ที่ยึดอำนาจ โดยหมัดเด็ดของ 250 ส.ว. คือ สามารถโหวตเลือกนายกฯ ได้ แสดงว่าการทำประชามติวันนั้นชาวบ้านถูกหลอกต้มให้เซ็นต์ชื่อในเช็คเปล่าเพื่อให้นักฉวยโอกาสถลุงอำนาจกันได้เต็มที่ ใช่หรือไม่.