สมคิดชี้ต่างชาติมองพื้นฐานไทยแข็งแกร่งไม่หวั่นค่าบาทแข็ง ดันสศช.ชี้นำเศรษฐกิจไทย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า ขณะนี้ต่างชาติมองพื้นฐานเศรษฐกิจไทยดี โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา 20 กุมภาพันธ์ดูข่าวเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินทางช่องบลูมเบิร์ก เทเลวิชัน ซึ่งบลูมเบิร์กเป็นสื่อให้ความสำคัญด้านการเงินรายงานว่า ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นแม้จะเป็นอุปสรรคของการส่งออก แต่สะท้อนพื้นฐานความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย ต้องดูว่าทำให้การเติบโตดังกล่าวยั่งยืนได้อย่างไร

นายสมคิดกล่าวว่า เศรษฐกิจโตไทยโตได้ 3% อย่างต่อเนื่องหลายไตรมาสคงไม่สำคัญว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี แต่ต้องดูว่าทำให้เกินกว่า 4% ได้อย่างไร เพราะยังมีข้อติดขัดและข้อจำกัดในหลายประการ ซึ่งการจะก้าวไปสู่ระดับดังกล่าวคงต้องมีการปรับโครงสร้าง โดยต้องการให้สศช.มีบทบาทเป็นผู้ชี้นำการทำงานของกระทรวงต่างๆ ไม่ควรปล่อยให้กระทรวงทำงานกันเอง สศค.ควรกลับไปมีบทบาทเหมือนในอดีตคือชี้นำกระทรวงว่าต้องทำอะไร โดยสศช.ต้องสร้างแกนหลัก หรือกระดูกงูให้กับประเทศให้ได้ ถ้าคนไม่พอ งบประมาณไม่พอ พร้อมจะสนับสนุนให้

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า รองนายกฯมอบหมายให้เป็นผู้นำ และแสดงบทบาทเหมือนในสศช.ในอดีต เช่น ผลกระทบจากการค้าโลกจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และสินค้าประเภทไหน ให้สศช.บอกเป็นรายตัวสินค้าให้ชัดเจน และดูว่าสินค้าตัวไหนที่ยังมีโอกาส จะไปหารือหรือจัดสัมมนาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และเอกชน

นายทศพรกล่าวว่า ในปี 2562 สศช. ตั้งเป้าหมายจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต 4% โดยนำอุตสาหกรรม 10 กลุ่มเป้าหมาย เช่น ไบโอเทคโนโลยี ท่องเที่ยว ดิจิทัล การเงิน มาเป็นตัวสนับสนุน โดยรองนายฯ มอบให้ต้องวางแผนในระดับนโยบายและให้กระทรวงต่างๆ มาปฏิบัติ โดยสิ่งที่ขาดในตอนนี้คือกระดูดงูที่จะมาเชื่อมแผนกับการปฏิบัติ เช่น ถ้าพัฒนาการศึกษาต้องเน้นศึกษาอะไร ไบโอเทคโนโลยีต้องโฟกัสอะไร ซึ่งสศช.ต้องไปกลับไปทำแผน โดยจะให้สถาบันนโยบายสาธารณะและการพัฒนา ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เข้ามาช่วยวางแนวทาง โดยสถาบันดังกล่าวมีทั้งเอกชน ต่างชาติเข้ามาร่วมทำงานด้วย ซึ่งภายในเดือนเมษายนนี้จะเปิดตัวสถาบันอย่างเป็นทางการ

นายทศพร กล่าวว่า ทั้งนี้นอกจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้(เอสอีซี) แล้ว สศช.อยู่ระหว่างการทำแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ(เอ็นอีซี) โดยเน้นพัฒนาและฟื้นฟูเมืองเก่าในจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน และลำปาง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชื่อมโยงเชียงใหม่, เชียงราย, เชียงแสน, เชียงของ, เชียงรุ้ง และเชียงตุง เข้าด้วยกัน เน้นในเรื่องไบโอเทคโนโลยีในจังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชน รวมถึงการทำแผนระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เอ็นอีอีซี) ผลักดันให้เป็นศูนย์กลางผ้าไหมเป็นศูนย์กลางผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าย้อมคราม และการเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพสูง พัฒนาอุตสาหกรมไบโอเทคโนโลยี พัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องให้ รวมทั้งการพัฒนาจังหวัดระนอง เป็นประตูการค้าด้านตะวันตก เชื่อมโยงการท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน โดยจะมีโครงการรถไฟรางคู่จากชุมพรไปยังระนอง

มติชนออนไลน์