ไทยเดินสายในฐานะประธานอาเซียน เร่งผลความร่วมมือ”อาร์เซ็ป”ทันปลายปี62

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยในฐานะประธานอาเซียนได้ตั้งเป้าให้การสรุปผลการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซ็ป)เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องสำเร็จในปีนี้ โดยไทยจะแสดงบทบาทนำในอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนการเจรจา และจะร่วมมือกับสมาชิกอีก 15 ประเทศ เร่งดำเนินงานตามแผนการทำงานเพื่อมุ่งสู่ผลลัพธ์ภายในปี2562 โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 19-28 กุมภาพันธ์ 2562 ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

นางอรมน กล่าวว่า โดยรอบนี้เป็นการหารือต่อเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 24 เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ณ ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อเร่งหาข้อสรุป 13 บทที่เหลือ เช่น การค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า การเยียวยาทางการค้า การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา ทรัพย์สินทางปัญญา พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การแข่งขัน และบทกฎหมาย เป็นต้น โดยข้อบทที่สรุปได้แล้วมี 7 บท ได้แก่ บทเกี่ยวกับมาตรการสุขอนามัยพืชและสัตว์ กฎระเบียบทางเทคนิค สถาบัน พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

” หลังจากการประชุมรอบบาหลีสมาชิกอาร์เซ็ปจะรายงานให้รัฐมนตรีอาร์เซ็ปทราบในการประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป สมัยพิเศษ ครั้งที่ 7 ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ที่ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อให้รัฐมนตรีอาร์เซ็ปพิจารณามอบแนวทางให้คณะเจรจาต่อไป โดยมุ่งมั่นให้การเจรจาสามารถสรุปผลทั้งหมดภายในปีนี้” นางอรมน กล่าว

นางอรมน กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญอย่างมากกับการสรุปผลการเจรจาอาร์เซ็ปภายในปีนี้ตามเป้าหมายที่ผู้นำไทยและอาร์เซ็ปร่วมกันตั้งไว้ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ในการเยี่ยมกระทรวงพาณิชย์ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้ไทยในฐานะประธานอาเซียนจะต้องเร่งหารือกับประเทศสมาชิกที่ยังคงมีประเด็นติดขัดอยู่ เพื่อหาทางออกและจุดสมดุลของผลประโยชน์ร่วมกันของสมาชิกเพื่อให้การเจรจาอาร์เซ็ปสามารถหาข้อสรุปได้ในปีนี้ รวมถึงสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงให้เท่าทันกับสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน

นางอรมน กล่าวว่า ในวาระที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน มีประเด็นเศรษฐกิจที่เสนอให้สมาชิกอาเซียนร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดผลสำเร็จในปีนี้ ซึ่งครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ การก้าวไปข้างหน้าสู่อนาคต (Future Orientation) การส่งเสริมความเชื่อมโยง (Enhanced Connectivity) และการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ (Sustainable in all dimensions) โดยเรื่องของการเร่งขับเคลื่อนการเจรจาอาร์เซ็ปให้บรรลุข้อตกลงได้ทั้งหมดภายในปีนี้ เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกบรรจุอยู่ในด้านการส่งเสริมความเชื่อมโยงทั้งภายในและกับภายนอกภูมิภาคอาเซียน

มติชนออนไลน์