‘บิ๊กตู่’สั่งสร้างบ้านให้ประมงไม่มีที่พัก เยียวยาหลังแก้ไอยูยู

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการจัดประชุมทางไกลระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์เพื่อติดตามงานและมอบแนวทางการ ปฎิบัติงานให้แก่หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดและภูมิภาคทั่วประเทศ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กังวลความเป็นอยู่ของชาวประมงพื้นบ้าน หรือประมงชายฝั่ง ที่มีจำนวน 640 ชุมชน ใน 22 จังหวัด หลังจากที่รัฐบาลมีการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู)

“หลังจากรัฐบาล มีการออกกฏหมายการทำประมง ตั้งแต่ปี 2558 ทำให้ประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกเรือ หรือประกอบอาชีพได้ นายกรัฐมนตรีสั่งให้ช่วยเหลือในเรื่องของคุณภาพชีวิต ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค หากชาวประมงพื้นบ้านไม่มีที่อยู่อาศัยให้สร้างบ้านพักอาศัย โดยยกตัวอย่างเรื่องการช่วยเหลือชาวบ้านที่รุกล้ำลำน้ำบริเวณ คลองลาดพร้าวที่เดือดร้อนจากการให้รื้อถอนโดยการสร้างคอนโดให้อยู่แทน โดยหลังจากนี้จะสั่งการให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ลงสำรวจความเป็นอยู่ชาวประมง โดยจะเริ่มจาก จ.นครศรีธรรมราช และจ.ปัตตานี และจะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป” นายกฤษฎา กล่าว

นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือ ต้องไม่ทำผิดในเรื่องการประกอบอาชีพประมง คือ ต้องไม่เป็นชาวประมงที่ไม่สามารถทำการประมงได้ ตั้งแต่ปี 2558 ที่รัฐบาลออกกฏหมายประมงแห่งชาติ ต้องไม่เคยทำผิดกฏหมายเกี่ยวกับไอยูยู หรือเกี่ยวกับกฏหมายการเข้าท่าและกฏหมายแรงงาน โดยรัฐบาลจะเลือกเยียวยากลุ่มนี้ จากการสำรวจเบื้องต้น พบมีผู้ที่ผ่านเกณฑ์ไม่ต่ำกว่า 300 ลำ

นายกฤษฎา กล่าวว่า  สำหรับการคัดค้าน 4 โครงการชลประทานในภาคใต้ ได้แก่ 1.เขื่อนวังหีบ อ.ทุ่งสง 2.เขื่อนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ 3.โครงการคลองผันน้ำเมืองนคร จ.นครศรีธรรมราช และ 4.โครงการประตูน้ำกั้นน้ำเค็มปากประ จ.พัทลุง ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานลงพื้นที่สำรวจผลกระทบหากเดินหน้าโครงการต่อ จะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง ได้หรือไม่ โดยเรื่องนี้ กลุ่มชาวบ้านที่มาคัดค้าน อ้างว่ามีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และมีการกล่าวอ่างว่าคนในกระทรวงเกษตรฯ ไปกว้านซื้อที่ขอการเวนคืน

“ได้สั่งให้กรมชลฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความจริง และกรณีที่มีการกว้านซื้อที่ดินของข้าราชการกระทรวงฯ เพื่อรอเงินเวนคืน ถ้าตรวจพบว่ามีการกระทำผิดจริง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ หรือแม้แต่มีเรื่องของการซื้อโดยผ่านตัวแทน หรือนอมินี ถือว่าไม่ถูกต้อง เว้นเสียแต่มีที่นั้นมาตั้งแต่สมัยปู่ สมัยย่า หรือเป็นมรดก” นายกฤษฎา กล่าว