คำตอบของ ‘ธนาธร’ ในวันที่ “ตกเป็นเป้า” และ ถูกเขา “สาดโคลน”

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอนค.ตกเป็นเป้าสาดโคลนของฝ่ายตรงข้าม ว่า เราคงไม่ได้ไปแก้ข่าวรายประเด็น เพราะสิ่งที่พรรคถูกโจมตีไม่ได้เป็นอะไรใหม่เลย เป็นประเด็นที่โดนมาตลอดตั้งแต่วันที่ตั้งพรรคมาแล้ว เพียงแต่มีการขุดคุ้ยและโหมกระหน่ำในช่วงนี้ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายที่ตรงข้ามทางความคิดกับเราต้องการจะทำลายเราและลดความนิยมชมชอบของประชาชนที่มีต่ออนค.
“ผมคิดว่าเป็นการทำงานการเมืองแบบเก่า คือการทำงานการเมืองที่จ้องแต่ทำลายกันด้วยข่าวลวง ด้วยการแบ่งแยกประชาชน การทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน และการทำการเมืองแบบนี้ทำให้ประเทศไทยอยู่แบบนี้มา 12 ปี แล้ว มันถึงไม่ไปไหน ผมขอชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เดินหน้าทำการเมืองต่อ โดยอย่างแรก คือ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นไม่ต้องโกหกประชาชน และอย่างที่สอง อย่าใช้ข่าวลวงทำลายคู่แข่ง ตั้งแต่ตั้งพรรคมาอนาคตใหม่ไม่เคยทำลายคู่แข่งด้วยข่าวลวง และเราภูมิใจ เราจะดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างสง่าผ่าเผย เพราะเราไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราไม่ซื้อเสียง และเราไม่ทำลายป้ายหาเสียง พรรคไม่โจมตีพรรคอื่นด้วยข่าวเลว เราวิจารณ์ใครด้วยข้อเท็จจริงและหลักการ แม้แต่วิพากษ์วิจารณ์ตัวบุคคลเรายังไม่วิจารณ์เลย เราวิพากษ์สังคมไม่ใช่เพราะเราเกลียดประเทศไทย เราวิพากษ์วิจารณ์สังคมเพราะรู้ว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะไปได้ไกลกว่านี้ และเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันประเทศไทย เราวิพากษ์เพราะเราไม่พอใจว่าทำไมเรามีศักยภาพเยอะแยะแต่ทำไมเราถึงเป็นได้แค่นี้ ดังนั้นเรามีแต่ความจริงใจ และมีแต่ความจริงเท่านั้นที่จะต่อสู้กับการเมืองแบบเก่านี้ได้”

เมื่อถามว่า มีศิลปินหรือชนชั้นนำออกมาวิจารณ์การแสดงความเห็น นายธนาธร กล่าวว่า เราฟังทุกเสียงที่วิพากษ์วิจารณ์ เราฟังทุกเสียงและเราพยายามปรับแก้ บางมุมที่เรามองไม่เห็นเราก็พยายามปรับแก้ อะไรที่เราเห็นว่ามันดีทำให้พรรคเข้มแข็งต่อไปเราก็พยายามปรับแก้ ส่วนที่วิจารณ์ด้วยอคติเราคงฟังทุกคนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำงานกันพอดี ทั้งนี้พรรคเรามีจุดยืนที่ชัดเจน มีนโยบายที่ชัดเจน มีทีมงานบริหารที่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นเราขายอุดมการณ์ของพรรค เราขายนโยบายและทีมงานที่เป็นมืออาชีพให้กับสาธารณะและให้ประชาชนตัดสินไม่ต้องไปสาดโคลนคนอื่น ไม่ต้องไปทำลายคนอื่น ทำลายคู่แข่งด้วยข่าวลวง หรือทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าในฝ่ายประชาธิปไตย พรรคอนค.จะโดนกระแสโจมตีเยอะที่สุด นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจเพราะสิ่งที่เรากำลังทำ เรากำลังขยับเพดานของสังคมจากที่มันถูกปิดทับมานาน วาระที่ก้าวหน้าในสังคมไทยไม่มีใครกล้าพูด เมื่อเรากล้าพูดย่อมกระทบกับผู้ถือประโยชน์ในปัจจุบัน ดังนั้นการโจมตีเราจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถือว่าวาระของเราได้รับการยอมรับในสังคมเขาจึงโจมตีเราเพื่อดิสเครดิต ทำให้สิ่งที่เราพูดไม่น่าเชื่อถือ

เมื่อถามว่า เกือบ 1 ปีที่ตั้งพรรคมา ถือว่าเกิดเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนผลักดันหรือสนับสนุนไม่ว่าข้างหน้าหรือข้างหลัง มีคนมากมายจริงๆที่ผลักดันเรามาถึงตรงนี้ได้ เพราะภารกิจในการนำสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม ภารกิจในการนำประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทย ทำคนเดียวไม่ได้แต่ต้องช่วยกันทำ ต้องค่อยๆสร้าง เลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่สำเร็จ เพราะเป็นการเดินทางที่ยาว ถ้าโชคดีอาจจะสำเร็จใน 5 ปี แต่ถ้าโชคร้าย 20 ปี เราอาจทำไม่สำเร็จต้องส่งต่อภารกิจนี้ให้รุ่นต่อไปทำ เราไม่รู้แต่ว่าเราทำงานกับประชาชนด้วยความจริงใจ และขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเราและก้าวต่อไปด้วยกัน และหวังว่าวาระที่เสนอจะเป็นวาระหลักในสังคมได้ และเมื่อเป็นวาระหลักเราจะมีคะแนนเสียงนั่นคือสิ่งที่คนสนับสนุนเราช่วยกันทำมาโดยตลอด