‘อภิสิทธิ์’ยกทัพบุกสายไหม หาเสียงคึกคัก แนะบิ๊กตู่ดีเบต สร้างบรรยากาศปชต.ก่อนเลือกตั้ง

“อภิสิทธิ์” ลงพื้นที่หาเสียงย่านสายไหมคึกคึก ชี้ เพิ่มงบกลาโหมต้องมีเหตุผล วอนหาเสียงกันด้วยนโยบายอย่าสร้างบรรยากาศความขัดแย้ง ท้า “นายกฯ” ดีเบตสร้างบรรยากาศปชต.ก่อนเลือกตั้ง ย้ำ นโยบายปชป.เป็นของแท้ไม่ได้ลอกใคร

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนางสาวจิตภัสร์ กฤดากร ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ นำนายสมชาย เวสารัชตระกูล ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. เบอร์ 8 เขตเลือกตั้งที่ 11 เขตสายไหม เดินพบปะพี่น้องประชาชนในตลาดวงศกร เพื่อรณรงค์ให้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม ที่จะถึงนี้ โดยนายสมชาย ผู้สมัครฯ ทำหน้าที่เป็นโฆษกประชาสัมพันธ์ ในการเดินรณรงค์วันนี้ว่า พรรค ปชป.ได้ทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่สายไหมมากกว่า 17 ปี ผมเป็นคนในพื้นที่ พร้อมจะเข้าไปทำงานเพื่อเดินหน้านโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ภายใต้สโลแกน “คิดอะไรไม่ออกบอก ดร.สมชาย เวสารัชตระกูล มุ่งมั่นพัฒนาเติมเต็มเขตสายไหมให้เจริญอย่างยั่งยืน” อย่างไรก็ตามบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พี่น้องประชาชนแม่ค้า พ่อค้า ที่มาจับจ่ายเข้ามามอบดอกไม้ ขอกอด และขอถ่ายรูปกับนายอภิสิทธิ์ และคณะ พร้อมคำชมว่า “ตัวจริงหนุ่มและหล่อกว่าในทีวี”

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภานหลังการลงพื้นที่ถึงการหาเสียงของ พรรคการเมืองในขณะนี้ว่า ไม่ควรโจมตีกันโดยประเด็นที่เห็นแตกต่างก็สามารถพูดคุยในเชิงนโยบายได้ไม่มีปัญหาอะไร เช่น เรื่องงบกระทรวงกลาโหม(กห.) ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะเสนอแต่การนำเสนอ แต่อยากให้อยู่ในข้อเท็จจริงและเหตุผลเช่นในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมางบ กห.จะมีลดอยู่ยุคหนึ่ง คือปีที่ตนเป็นนายกฯ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงว่าปรับลดได้ เพียงแต่การปรับลดต้องมีเหตุผล ว่าปรับลดด้วยเหตุผลอะไร แม้ตอนนี้ตนจะเห็นด้วยที่จะมีการปรับลดงบประมาณ กห. แต่ต้องให้เหตุให้ผลไม่ควร นำไปสู่ประเด็นความขัดแย้ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พรรคปชป.จะนำเสนองบประมาณในภาพรวมทั้งหมด ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ในการบริหารเศรษฐกิจการเงินการคลังทั้งหมด โดยจะแถลงข่าวให้เห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจและประเด็นที่ไม่ใช่ นโยบายที่นำมาหาเสียงกัน ทั้งนี้ พรรคปชป.เดินหน้าหาเสียงด้วยนโยบาย ซึ่งในขณะนี้ประชาชนก็เริ่มเห็นความขัดแย้ง เพราะคาดหวังเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ และปากท้อง อยากให้เกิดความมั่นใจว่าเลือกตั้งแล้วมีความสงบ สามารถเดินหน้าแก้ปัญหาพื้นฐานได้อย่างจริงจัง และอยากมั่นใจว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วไม่มีความขัดแย้งจนต้องกลับมาสู่จุดนี้อีก จึงอยากให้ทุกพรรคหาเสียงอย่างสร้างสรรค์นำแนวคิดการเมืองมาพูดคุยสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้แต่อย่าทำให้เกิดความขัดแย้ง

“ท่านนายกฯเองเมื่อลงสมัครเป็นแคนดิเตตนายกรัฐมนตรี ก็ควรร่วมวงสนทนาสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ซึ่งจะทำให้เกิดบรรยากาศประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะถ้าเราอยากกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยก็ควรได้ผู้นำที่มีลักษณะความเป็นประชาธิปไตยโดยลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งคือต้องสามารถแลกเปลี่ยนและฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้และแสดงวิสัยทัศน์ร่วมกับคนอื่นได้ถ้าไม่สร้างค่านิยมแบบนี้สุดท้ายจะได้ผู้นำแบบอำนาจนิยม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนที่มีการมองว่านโยบายหลายอย่างของปชป.มีความคล้ายคลึงกัน กับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมองว่าไม่คล้าย เพราะมีทั้งของจริงและของลอกเลียนของจริง คือปชป.มาจากการทำงานที่ต่อเนื่อง เช่น เบี้ยยังชีพการออมแห่งชาติพรรคปชป.เป็นคนริเริ่มทั้งๆที่หลายยุคหลายสมัยไม่เคยให้ความสำคัญ รวมถึงนโยบายเด็ก วันที่พรรคปชป.เริ่มนโยบายนี้นายกรัฐมนตรียังพูดว่า “อย่าไปเชื่อจะเอาเงินมาจากไหน” แต่วันนี้อยู่ดีๆจะทำนโยบายแบบเดียวกัน แต่ใช้เงินมากกว่า ที่สำคัญคือ 4 -5 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีแนวคิดนี้ ในเรื่องเด็กอายุ 0 ถึง 8 ขวบ รวมถึงการให้เงินเด็กถ้วนหน้าเพราะฉะนั้นการโฆษณานโยบายใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องย้อนกลับไปดูความจริงว่า เป็นอย่างไร เช่นราคายางพาราไม่มียุคไหนที่ราคาสูงเท่ากับตอนที่ตนเป็นรัฐบาล ดังนั้นจึงมั่นใจว่านโยบายของพรรคปชป.เป็นของแท้

มติชนออนไลน์