‘เหริน เจิ้งเฟย’ ผู้ก่อตั้ง ‘หัวเว่ย’ ลั่น โลกอยู่ไม่ได้ถ้าขาดหัวเว่ย

บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย วัย 74 ปี ที่ถือเป็นการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การจับกุมตัวนางเมิ่ง หวั่นโจว บุตรสาวของของนายเหริน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) ของหัวเว่ย ที่ถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อเตรียมส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่สหรัฐตามคำขอ เนื่องจากนางเมิ่งถูกสหรัฐกล่าวหาว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่ออิหร่าน โดยนายเหรินได้โต้แย้งข้อกล่าวหาดังกล่าว และขอปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของศาล

นายเหรินซึ่งปกติจะไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ต้องก้าวออกมาสู่สายตาชาวโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากหัวเว่ยกำลังถูกดดันอย่างหนักจากการที่สหรัฐพยายามชักชวนให้หลายประเทศเลิกใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ย โดยกล่าวหาว่าเทคโนโลยีของหัวเว่ยมีการจารกรรมข้อมูลของผู้ใช้ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ออสเตรเลียได้แบนการใช้งานอุปกรณ์หัวเว่ยในเครือข่ายอนาคต 5จี เนื่องจากมีความเป็นห่วงกังวลในเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ นิวซีแลนด์เองก็ได้ห้ามบริษัทโทรคมนาคมใหญ่ที่สุดของประเทศใช้เทคโนโลยีรุ่นต่อไปของหัวเว่ย ขณะที่อัยการสหรัฐเองก็ตั้งข้อหาหัวเว่ยว่าขโมยความลับทางการค้า โดยเสนอเงินรางวัลให้แก่พนักงานที่สามารถขโมยเทคโนโลยีของคู่แข่งมาได้

ซึ่งนายเหรินเองไม่สนใจต่อแรงกดดันดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่มีทางที่สหรัฐจะมาบดขยี้หัวเว่ยได้ และว่า โลกไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีหัวเว่ยเนื่องจากหัวเว่ยมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

“ถ้าหากแสงไฟดับในฟากตะวันตก ฟากตะวันออกก็ยังคงมีแสงสว่าง” และว่า อเมริกาไม่ใช่ตัวแทนของโลก และแม้ว่าจะมีอีกหลายประเทศที่จะไม่ใช้หัวเว่ยชั่วคราว แต่หัวเว่ยก็สามารถลดขนาดลงและมีขนาดที่เล็กลงได้เสมอ

มติชนออนไลน์