“อนาคตใหม่” ชูแก้กม.เพิ่มเสรีภาพสร้างสรรค์ศิลปะ สร้าง “อาร์ต คอมมิวนิตี้” ทุกจังหวัด

เมื่อวานนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2562) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์นโยบายด้านศิลปวัฒนธรรม ในเวทีสาธารณะ “พรรคการเมืองกับนโยบายศิลปวัฒนธรรม” โดย กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาวัฒนธรรมอำนาจนิยมเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเติบโตของศิลปวัฒนธรรม คือไปกดทับและกำหนดให้ความเป็นไทยมีแบบเดียว แตกต่างไปจากนี้ไม่ได้ เช่น ค่านิยม 12 ประการ ซึ่งไปขัดแย้งกับวัฒนธรรมที่มีมากมาย มีความแตกต่างหลากหลายในสังคมไทย นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายที่ขัดกับเสรีภาพในการแสดงออกเป็นจำนวนมาก พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า ถ้าไม่มีเสรีภาพ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพื่อเปิดทางให้เสรีภาพในการแสดงออก เราจะนำกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อเสรีภาพการแสดงออก เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กฎหมายหมิ่นประมาท พ.ร.บ.การชุมนุมฯ กฎหมายภาพยนตร์และวีดีทัศน์มาแก้ไข

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า พรรคอนาคตใหม่ต้องการสร้างพื้นที่สาธารณะ ให้ทุกคนสามารถแสดงออกทางวัฒนธรรมบนความงดงามหลากหลายได้ พิพิธภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมต้องขยายเวลาเปิดออกไป และต้องสนับสนุนให้มีพิพิธภัณฑ์ในระดับท้องถิ่นที่สะท้อนความหลากหลายขึ้นมาด้วย รวมถึงการมี community art space ในทุกจังหวัด ซึ่งจะต้องอาศัยการกระจายอำนาจออกไปจากส่วนกลาง ซึ่งรวมถึงอำนาจทางวัฒนธรรมด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทุกอย่างถูกกำหนดไว้ที่ส่วนกลาง ต้องยอมรับว่า ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นดำรงอยู่จริง จะไปกดทับไว้ไม่ได้ และการผูกขาดทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจก็มีส่วนสำคัญในการกดทับความหลากหลาย เช่นวันนี้ จะฉายหนังสักเรื่อง ถ้าไม่ขอใบอนุญาติ ก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกตีความว่าเป็นโรงภาพยนตร์ ทำให้เกิดการผูกขาดการฉายหนังไว้กับโรงภาพยนตร์รายใหญ่เท่านั้น

“พรรคอนาคตใหม่ยังมีนโยบายสนับสนุนศิลปินให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานโดยไม่มีอุปสรรคทางด้านเศรษฐกิจ เช่น สิทธิทางภาษี หรือการกำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในงานที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในอัตราที่ต่ำกว่าปกติ รวมถึงนโยบายด้านรัฐสวัสดิการของพรรคอนาคตใหม่เอง ก็จะเอื้อต่อการใช้ชีวิตและสร้างสรรค์งานของศิลปิน ที่ส่วนใหญ่เป็นฟรีแลนซ์และไม่ถูกครอบคลุมอยู่ในสิทธิการรับสวัสดิการต่างๆด้วย ศิลปวัฒนธรรมไทยต้องไม่มีแบบเดียว ประชาชนทุกคนต้องมีสิทธิในการสร้างสรรค์ศิลปะของตัวเองโดยไม่ถูกกดทับจากส่วนกลาง และต้องเอาวัฒนธรรมของไทยออกไปสู่สากลได้ ไปสร้างเศรษฐกิจได้ นี่คือความหมายของคำว่าไทยสองเท่า คือ คนไทยเท่าเทียมกัน และประเทศไทยเท่าทันโลก ในทางด้านศิลปวัฒนธรรม” นายปิยบุตร กล่าว