“สุดารัตน์” ลั่นตัดงบกลาโหม 10% สร้างเถ้าแก่ใหม่ ประกาศ 24 มี.ค.ทวงเงินในกระเป๋าคืน

ที่มาภาพ : ณัฐพงศ์ ดวงแก้ว

เมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2562) เมื่อเวลา 16.00 น.  ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก โดยมีบรรดาแกนนำและกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนของพรรค เดินทางมาร่วมปราศรัยกันอย่างคึกคัก พร้อมทั้งร่วมปราศรัยนโยบายของพรรคด้วย อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมปราศรัยของพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศราฐกิจพรรค นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายนพดล ปัทมะ นายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยายกาศเป็นไปอย่างคึกคักบริเวณลานคนเมืองแน่นขนัดไปด้วยประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย

เมื่อเวลา 20.50 น. คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมครอบครัวปรากฏตัวจากด้านหลังของเวทีปราศรัย เดินทางทักทายประชาชนจากหลังเวทีมาหน้าเวที ก่อนขึ้นกล่าวปราศรัยว่า 2 เดือนที่ผ่านมาตนมีโอกาสลงพื้นที่พบประชาชน ทุกคนต่างบ่นว่าเศรษฐกิจแย่ เป็นหนี้ท่วมตัว ค้าขายไม่ดี นี่คือความเจ็บปวดของพวกเราคนทำงานพรรคพท. ประชาชนถูกยึดอำนาจไปด้วยเหตุผลสารพัด แล้วสัญญาว่าจะคืนความสุขให้เรา แล้วก็มาหาเราทุกวันศุกร์จริงๆ ทั้งยังสัญญาว่าจะใช้เวลาไม่นาน นี่ก็จะ 5 ปีแล้ว สงสัยว่านาฬิกาที่ยืมเพื่อนมาจะเดินไม่ตรง วันนี้มาเจอกันหลายคนยิ้มเพราะมีความหวังว่าจะได้เลือกตั้ง แต่ในใจหลายคนทุกข์จากสภาพเศรษฐกิจที่สั่งสมมาหลายปี นี่จึงเป็นภารกิจของพรรคพท.ที่จะมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และเพิ่มพลังให้พี่น้องประชาชนให้ได้ และ 17 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาเราทำให้เศรษฐกิจดีทุกครั้ง เศรษฐกิจแย่มีแค่พรรคพท.พรรคเดียวเท่านั้นที่แก้ได้ วันนี้พท.จะมากู้ศักดิ์ศรีของประเทศไทยกลับมาบนเวทีโลก หมดเวลารถถังแล้ว ได้เวลานักบริหารมืออาชีพ ได้เวลาพท.กลับมากอบกู้เศรษฐกิจแล้ว

เราจะเร่งสร้างรายได้ให้พี่น้องด้วย 5 มาตรการ คือ 1.ปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ให้ประชาชนคนตัวเล็ก และธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็กให้ยืนอยู่ได้ เพราะอีกไม่นานนี้เราจะต้องเผชิญกับสึนามิลูกใหญ่ของเศรษฐกิจโลก เราต้องปรับตัวก่อนเจ๊ง เราต้องยืนอยู่ได้ อยู่ให้รอด 2.เราจะเร่งเติมเงินทุนให้กับพี่น้อง ตนเชื่อว่าทุกคนยังอยากทำงาน ไม่มีใครอยากเป็นคนจนแล้วแบมือรับบัตรคนจนไปทั้งชีวิต เราอยากมีศักดิ์ศรี แต่ไม่มีทุน เราจึงต้องเติมทุนให้คนตัวเล็กและผู้ประกอบการตัวเล็ก และผู้ประกอบการใหม่ เราจะทำให้มีธนาคารพัฒนารายได้ทุกจังหวัด เราต้องเพิ่มแหล่งเงินทุนให้เกิดขึ้นเพื่อให้พี่น้องมีทุนมาทำมาหากิน 3.เราต้องขายของได้ พี่น้องต้องมีที่ขายของ ต้องจัดระเบียบแบบชาญฉลาด และเราจะนำสินค้าไทยไปบุกตลาดโลก เราจะทำให้โลกทั้งโลกเป็นที่ขายสินค้าของไทย 4.การขจัดอุปสรรคที่ขวางกั้นการทำมาหากิน ใบอนุญาตต่างๆ ต้องลดลงให้ง่าย และโปร่งใส และ 5.รัฐบาลต้องหาเงินเป็น ไม่ใช่ขึ้นภาษีอย่างเดียว ดังนั้น พท.จะลดภาษีลง จะพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี เพื่อให้เกษตรกรยืนอยู่ได้ก่อน และหาก พท.ได้เป็นรัฐบาลราคาสินค้าต้องดีขึ้นทุกตัวภายใน 6 เดือน อย่างน้อย 30% นอกจากนี้ พท.รู้วิธีที่จะพัฒนาเมืองให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ เงินที่จะเข้ามาสู่พี่น้องจะต้องแตะที่ 3 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน

คุณหญิงสุดารัตน์​ กล่าวอีกว่า เราจะสร้างเถ้าแก่ใหม่ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศโดยการสร้างศูนย์ Smart small business center โดยมีเงินทุนให้ จะตัดงบกลาโหม 10% มาสร้างคนรุ่นใหม่ สร้างกองทุนคนเปลี่ยนงานเพื่อสร้างทักษะโลกใหม่ ไม่ทำให้คนตกงาน คนตัวเล็กจะมีบัตรทองสตาร์ทอัพให้คนรุ่นใหม่ได้ทำงานนอกอีอีซี และจะมี 30 บาท ยาดีไม่ต้องรอคิว ต้องแข็งแรงก่อนแก่ และต้องมีหมอใกล้ตัวผ่านมือถือ เราจะคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนกรุงเทพฯ ภายใน 3 ปีอย่างแน่นอน เตรียมโบกมือลาฝุ่นพิษได้เลย ถ้าเราเป็นรัฐบาลเราจะไม่เพิกเฉยแบบนี้ แต่เราจะตั้งวอร์รูมรับมือแล้วจะไม่ทำงุดหงิด แต่จะบอกความจริงกับประชาชน พร้อมบอกวิธีการป้องกัน ต้องให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพของตัวเอง ถ้าเราเป็นรัฐบาล เราจะเร่งเอาหน้ากาก และเครื่องฟอกอากาศเข้ามาโดยไม่มีภาษี และจะเปลี่ยนรถทั้งหมดเป็นรถไฟฟ้าที่ไม่มีมลพิษ จะเอารถถังจากจีนหรือรถเมล์ไฟฟ้าจากจีนดี พี่น้องเลือกเอา เราจะทำฟู้ดสตรีทให้นักท่อเที่ยวทั่วโลกเข้ามาใช้บริการ และมาชิมอาหารข้างถนน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า เขายึดอำนาจจากพี่น้องไป 4 ปี 9 เดือน เขาใช้เงินงบประมาณไป 14.4 ล้านล้านบาท แต่ทำไมไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจกี มีเงินในกระเป๋า แต่กลับทำให้พี่น้องประชาชนมีหนี้สินเพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 1.79 ล้านล้านบาท คนไทยได้กลายเป็นจนหมดถ้วนหน้าแล้ว รวยกระจุก จนกระจาย พท.เราทำงานแบบนี้ไม่เป็น เราทำเป็นแต่รวยกระจาย จนกระจุก เราเห็นประชาชนเป็นนาย ไม่ใช่เห็นประชาชนเป็นพลทหารที่คอยตะคอกใส่ วันนี้กติกาการเลือกตั้งเปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง ใบเดียวเลือกทั้งคน ทั้งพรรค ทั้งนายกฯ และเบอร์แตกต่างกันไปหมด จำอย่างเดียว คือ เบอร์พท. จำโลโก้พท.ไว้ ตนเชื่อว่าพี่น้องจำได้เพราะถูกสลักไว้ในใจของพี่น้องแล้ว นอกจากนี้เรามี ส.ว.250 คน ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของพี่น้อง แต่มาจากการเลือกของเขาเอง และส.ว.จะร่วมเลือกนายกฯ และรัฐบาลได้ ทั้งยังออกแบบให้มีอายุ 5 ปี เท่ากับเขาจะเลือกนายกฯได้ 2 สมัย 8 ปี เอาเปรียบพท.ที่สุด และมีกติกาที่เอาเปรียบแบบนี้อีกมากมาย แต่เชื่อว่ากติกาที่เอาเปรียบนี้จะไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพี่น้องประชาชน วันที่ 24 มีนาคมนี้ เราจะต้องจับมือกันให้แน่น ระหว่างพท.กับพี่น้องประชาชน เพื่อเดินออกจากทุกข์ครั้งนี้ไปด้วยกัน

“การเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องต้องเลือกด้วยเหตุผล อย่าเลือกเพราะรักหรือเกลียดใคร แต่ต้องเลือกเพราะรักตัวเอง และอนาคตของลูกหลาน ถ้าพี่น้องไม่รักตัวเองอาจจะต้องอยู่ในสภาพแบบที่ผ่านมา 4-5 ปี อยู่กับนายกฯ คนเดิมไปอีก 4-5 ปี ถ้าไม่ไหวมีทางเดียว กุญแจดอกเดียวที่จะพาพี่น้องออกจากความทุกข์นี้ได้คือพท. เท่านั้น และหากไปเลือกกันน้อยก็ได้อยู่กับลุงต่อไป ดังนั้นต้องไปเลือกพท.ให้ถล่มทลายจนท่วม ส.ว. 250 คน เราจะนำความสุขมาให้พี่น้อง นำความสงบมาให้กับประเทศ แต่ไม่ใช่ความสงบแบบนี้ สงบของพท.จะต้องสงบแบบมีอนาคต เศรษฐกิจดี กระเป๋าตุง ถ้าเราทำภาระกิจวันที่ 24 มีนาคมสำเร็จ เราจะสร้างความสุข สร้างเศรษฐกิจที่ดี และทำให้พี่น้องกระเป๋าตุงให้ได้ ตัดสินใจให้ดีจะอยู่กับลุงต่อไป หรือจะเดินไปสู่อนาคตที่ดีกับพท. 24 มีนาคมได้เวลาทวงความสุข และทวงเงินในกระเป๋าของเรากลับคืนมา”