ยังลุ้นพิพากษาอุทธรณ์คดี ‘ชายชุดดำ’ ม็อบนปช. 10 เม.ย. ศาลอนุญาตขยายเวลา 2 จำเลยยื่นอุทธรณ์

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีชายชุดดำ ในการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.หมายเลขดำ อ.4022/2557 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี อายุ 49 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 29 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 39 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร และนางปุนิกา หรืออร ชูศรี อายุ 43 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 8 ทวิ 55, 72 และ 78 และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่ชุมชนหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากกรณีวันที่ 10 เม.ย.53 พวกจำเลยร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ไปตามถนนตะนาว ถนนประชาธิปไตย (แยกคอกวัว) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-5 ให้ยกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย โดยให้ขังจำเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งต่อมาจำเลยที่ 3, 4 และ 5 ได้ยื่นประกันตัวไปคนละ 200,000 บาท

โดยเมื่อถึงเวลานัดศาลได้แจ้งให้จำเลยทั้งหมดรับทราบก่อนว่า ศาลจะอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในส่วนที่จำเลยที่ 3 และ 4 ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คดีนี้ โดยศาลระบุว่าหลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 3, 4 และ 5 ต่อมาจำเลยที่ 3-4 ได้ยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์ ซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.60 ว่าการยื่นคำร้องนั้นได้ล่วงเลยระยะเวลาในการยื่นขอขยายอุทธรณ์มาแล้ว จึงให้ยกคำร้อง ซึ่งจำเลยที่ 3-4 ได้ยื่นอุทธรณ์ (เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560)

โดยศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับให้จำเลยทั้งสองขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้เป็นเวลา 30 วัน นับจากที่ศาลมีคำสั่งนี้ ซึ่งขณะนี้จำเลยที่ 3-4 ยังไม่ได้ยื่นคำอุทธรณ์และยังไม่แน่ว่าจำเลยทั้งสองจะยื่นอุทธรณ์คดีภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหรือไม่

ดังนั้นศาลศาลอุทธรณ์จึงยังไม่ได้มีคำพิพากษาในคดีนี้ เนื่องจากต้องรอให้ชัดเจนก่อนว่าจำเลยที่ 3-4 จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ หากยื่นอุทธรณ์ก็จะนำไปพิจารณาพร้อมกับอุทธรณ์ของโจทก์และจำเลยที่ 1, 2 และ 5 โดยระหว่างนี้ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ไว้ก่อน

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย กล่าวภายหลังว่า ในขณะนี้ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้มีการพิจารณาในเนื้อหาหลักของคดี ก่อนหน้านี้มีทนายความที่รับผิดชอบในคดีด้วย ซึ่งได้ดูแลคดีจำเลยที่ 3-4 ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้อง ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์นั้น โดยเนื้อหาที่อุทธรณ์ก็จะให้ศาลมีการพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ชี้ขาดเรื่องการยกประโยชน์แห่งความสงสัยของพยานหลักฐานโจทก์ หรือคำฟ้องโจทก์ฟังไม่ขึ้น เราจึงได้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 2 ศาลไม่อนุญาตให้ขยายเราจึงอุทธรณ์ในเรื่องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้ที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาก็จะเป็นส่วนที่ศาลได้อนุญาตให้ขยายอุทธรณ์โดยในส่วนจำเลยที่ 5 ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้องเช่นกัน ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว

“ก็จะหารือกับจำเลยที่ 3-4 อีกครั้งเพื่อยืนยันว่ายังประสงค์ที่จะยื่นอุทธรณ์อีกหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้น จำเลยที่ 3-4 ก็จะไม่ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็จะทำคำร้องยื่นต่อศาลอุทธรณ์แจ้งให้ทราบ เพื่อการพิจารณาคำอุทธรณ์คดีนี้ของจำเลยคนอื่นจะได้ดำเนินการต่อไปตามระยะเวลา โดยปัจจุบันจำเลยที่ 1-2 ก็ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกว่า 2 ปี ซึ่งระหว่างนี้คิดว่ายังไม่สามารถที่จะยื่นประกันตัวได้เพราะคำพิพากษาลงโทษของศาลชั้นต้นอัตราโทษค่อนข้างสูง ขณะที่ศาลอุทธรณ์ก็ยังไม่มีคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีนี้ออกมาจึงเป็นไปได้ว่า หากจะยื่นประกันก็อาจจะยังไม่ได้รับการประกันตัวออกมา” ทนายจำเลยกล่าว

มติชนออนไลน์