“บิ๊กตู่” สั่งทุกกระทรวง ป้องกันข่าวบิดเบือน ย้ำ 7 หมื่นหอกระจายข่าวทั่วประเทศห้ามเสีย

“บิ๊กตู่” สั่งทุกกระทรวง ป้องกันข่าวบิดเบือน ให้ มท.เป็นศูนย์กลาง แนะใช้บ้าน-วัด-โรงเรียน ระดมความเห็น ย้ำ 7 หมื่นหอกระจายข่าวทั่วประเทศห้ามเสีย

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการสร้างการรับรู้สู่ชุมชน โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ร่วมในพิธีลงนาม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาว่า ปัจจุบันมีข่าวต่างๆแพร่หลายมากมาย มาสร้างความไม่เข้าใจให้ประชาชน สร้างความสับสนอลหม่านมากพอสมควร เราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพราะถือเป็นอันตรายที่สุด เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความไม่เข้าใจ วันนี้มีข่าวเท็จ ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือนแพร่หลายในโซเชียลมีเดียและสื่อบางฉบับ ซึ่งตนไม่เข้าใจตรงนี้ ดังนั้น เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันและการเรียนรู้ให้ประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องสร้างความเข้าใจในกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นการออกคำสั่งมาตรา 44 หรือประกาศราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานกลางในการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน โดยให้ทุกหน่วยงานส่งข้อมูลมาที่กระทรวงมหาดไทยได้ นอกจากนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งถือว่ามีความใกล้ชิดกับประชาชนมากสุด จะต้องสามารถถ่ายทอดให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจได้ การสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารราชการแผ่นดิน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตื่นตัวกับความเชื่อมโยงในการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับบ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งควรจะเป็นแหล่งพูดคุยสาระประโยชน์ การพัฒนาประเทศ การบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมาย โดยต้องนำประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในรูปแบบประชารัฐ

นายกฯ กล่าวว่า ในระดับพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีความสำคัญ รวมถึงนายอำเภอ ปลัดอําเภอ ปลัดอบต. ท่านคือหน่วยงานที่ต้องจับมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อย่าให้เขาไม่รู้อะไรเลย สมมุติตัวเองไม่รู้คนข้างล่างก็ไม่รู้อีก แล้วจะไปยังไง พูดให้ตายก็ไม่เกิดประโยชน์ขึ้นมา ตนพูดให้ข่าว ผ่านโซเชียล เว็บไซด์ อะไรออกไปก็ไม่เปิด ไม่อ่าน ไม่ดู ตนจึงติติงว่าเว็บไซต์รัฐบาลบางทีก็ยาวเกินไป หากมีเนื้อหาเป็นตอนๆ เวลาจะดูเรื่องนี้อย่างไร มีสาระอะไร ใครอยากรู้เรื่องนี้ก็กดเฉพาะเรื่องนี้ ไม่ใช่ยาว 50 หน้าทีเดียวไม่มีใครเขาตามดูหรอก เพราะคนอ่านหนังสืออ่านโซเชียลไม่มีใครเกิน 15 นาทีหรอก และวันหน้าจะยิ่งน้อยกว่านี้ลงไปอีกเพราะโซเชียลไปเร็ว คนก็คิดเร็วตามนั้นเห็นแต่ปัญหาเห็นแต่ผลที่ต้องการแต่ไม่สนใจวิธีทำ เพราะมีเทคโนโลยีในการช่วยทำทั้งหมด

“หอกระจายข่าวที่เห็นก็ได้ประโยชน์ ใช้หาเสียงไม่ได้ไม่ว่าใครทั้งนั้น ต้องใช้สร้างการเรียนรู้ นำข่าวสารนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลสู่ประชาชน ไม่ใช่เอาอะไรพูดไปเรื่อย หอกระจายข่าวหมู่บ้าน 7 หมื่นแห่ง อย่าให้เสีย เลือกกระจายข่าวให้ทั่วถึงทั่วประเทศ สร้างกระบวนการเรียนรู้ ไม่ใช่บอกเขาไม่เก่งไม่ฉลาด ต้องนำไปถูกแถลงในเรื่องที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง หรือปลูกฝังเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะอาจจะส่งผลเสียมากมายทั้งที่บางเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง”

มติชนออนไลน์