วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดเชียงราย พรรคอนาคตใหม่เข้าร่วมงานเวที “ถกแถลงแจงนโยบาย : สาธารณสุข ฝุ่นพิษกับความพร้อมด้านแพทย์ปฐมภูมิและหลักประกันสุขภาพ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 สะท้อนรากเหง้าของปัญหาระบบสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเฝ้าระวัง ปัจจุบัน ระบบสาธารณสุขของไทยเน้นไปที่การให้บริการหลังจากป่วยหรือบาดเจ็บ ทั้งการบริการสาธารณสุขของข้าราชการ ประกันสังคมและบัตรทองทุ่มเทงบประมาณไปที่การรักษามากกว่าการใช้งบประมาณเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น พรรคอนาคตใหม่เสนอให้มีการใช้งบประมาณเพื่อสร้างระบบป้องกันดังกล่าว รวมถึงเสนอแนวทางแก้ปัญหาอีกเรื่องคือ เราจะยุติปัญหาเรื่องใบส่งตัวที่คนไข้เผชิญ เช่น การที่แพทย์ประจำอำเภอจะเขียนใบส่งตัวไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัดแล้วมีความล่าช้า รวมถึงปัญหาความแม่นยำในการเขียนใบส่งตัวที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างแพทย์ที่เขียนใบส่งตัวกับแพทย์ที่วินิจฉัยเมื่อรับตัวมาแล้ว จากนี้ไปข้อมูลของคนไข้ที่ต้องเชื่อมโยงกันทุกโรงพยาบาล

“พรรคอนาคตใหม่จะทำซิงเกิลดิจิตอล ไอดี ของคนไข้ ทุกคนจะมีประวัติการรักษาที่เชื่อมโยงทุกโรงพยาบาล ใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้อย่างแน่นอน แล้วท้ายที่สุดคือการใช้ระบบเอไอ ใช้เครื่องตรวจสุขภาพประจำบ้าน ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจเสมหะแล้วส่งผลทั้งหมดไปที่โรงพยาบาลผ่านระบบออนไลน์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปที่โรงพยาบาลอีกต่อไป หากมีอาการเจ็บป่วยและต้องการใช้ยาก็ไม่จำเป็นต้องมารับยาที่โรงพยาบาลแต่หมอจะเขียนใบสั่งยาแล้วให้ผู้ป่วยไปรับยาที่ร้านขายยา อีกทั้งยังสามารถเบิกค่ายาตามหลักประกันสุขภาพที่แต่ละคนถือไว้” ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จ.เชียงรายและนายแพทย์ด้านเวชศาสตร์กล่าว

นพ.เอกภพกล่าวต่อไปว่า จุดยืนของพรรคอนาคตใหม่คือ ไม่ผูกโยงหรือทำเพื่อนายทุนใด ๆ ทั้งสิ้น หลายเรื่องไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หากประเทศไทยยังเป็นรัฐราชการรวมศูนย์ ปัญหาฝุ่นควันที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือไม่เคยแก้ไขได้เลยหากยังต้องรอคำสั่งจากส่วนรัฐราชการส่วนกลาง แต่ปัญหานี้ สามารถแก้ไขได้บ้างในพื้นที่เพราะคนในท้องถิ่นจัดการกันเองเท่าที่มีอำนาจ ทรัพยากรอันจำกัด แต่อย่างน้อยก็สามารถแก้ไขปัญหาให้บรรเทาได้บ้าง ดังนั้น จากนี้ไปรัฐไทยจะต้องกระจายอำนาจ ยกเลิกรัฐราชการรวมศูนย์และท้ายที่สุดพรรคอนาคตใหม่จะไม่เอากลุ่มทุน เราคือ กองหน้าประชาธิปไตยที่มีเจ้านายคือประชาชน ดังนั้น ทุกนโยบาย ทุกยุทธศาสตร์ของพรรค มีเป้าหมายเพื่อประชาชนเป็นหลัก ดังนั้น หากอยากเห็นอนาคตใหม่ของประเทศก็อยากพิจารณานโยบายของพรรคเพื่อพิสูจน์ว่า นโยบายของพรรคสอดคล้องกับชื่อคือ อนาคตใหม่