นักวิชาการ แนะ อย่าสร้างความได้เปรียบ แม้ไม่ลาออกนายกฯ “บิ๊กตู่”ควรลาออกหน.คสช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีฝ่ายวิชาการคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊กแฟนเพจ แสดงความเห็นถึงจุดยืนนายกรัฐมนตรี ระบุว่า

ถึงแม้จะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ แต่ควรลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช.

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ว่าใครจะมาไล่ก็ไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยอ้างเหตุผลมากมายหลายข้อ เช่น ในอดีตผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการบริหารประเทศทั้งในต่างประเทศและประเทศไทยไม่เคยมีใครลาออกจากตำแหน่งระหว่างการเลือกตั้ง ไม่มีกฎหมายประเทศใดรวมทั้งประเทศไทยด้วยที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดลาออกจากตำแหน่งระหว่างมีการเลือกตั้ง และถึงแม้ว่าจะดำรงตำแหน่งสูงสุดในการบริหารประเทศ ก็ไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบหรือได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแต่อย่างใด โดยยกตัวกรณีสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรีระหว่างการเลือกตั้ง ก็ยังพ่ายแพ้แก่พรรคเพื่อไทย และยังได้กล่าวอีกว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 บังคับให้ต้องดำรงตำแหน่ง และต้องอยู่เพื่อจัดพระราชพิธีสำคัญของชาติ

สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาพูดอ้างเหตุผลมานั้นมุ่งไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก แต่พลเอกประยุทธ์มิได้เอ่ยถึงอีกตำแหน่งที่ตนเองดำรงอยู่ด้วย นั่นคือตำแหน่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

สำหรับการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นผมคงไม่โต้แย้งอะไรมากมายนัก แม้ว่าเหตุผลที่พลเอกประยุทธ์ อ้างจะเป็นเหตุผลแบบตรรกะวิบัติ และเป็นการอ้างเหตุผลแบบเด็กดื้อหรือเอาสีข้างเข้าถูก็ตามโดยเฉพาะการยกการกระทำในอดีตของบรรดาผู้นำมาเป็นข้ออ้าง และการอ้างว่ากฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องลาออก

ประเด็นหลักอันเป็นข้อสงสัยของผู้คนในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดที่ยังคงมีอำนาจเต็ม ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการขณะที่มีการเลือกตั้งก็คือ ความกังวลในการใช้อำนาจหน้าที่เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันการเลือกตั้ง

แม้ว่าพลเอกประยุทธ์พูดในทำนองว่าจะไม่ใช้อำนาจเหล่านั้นหากไม่จำเป็น การพูดเช่นนี้ทำให้ไม่มีหลักประกันหรือสร้างความเชื่อมั่นใดๆแก่คนในสังคมได้เลยว่า พลเอกประยุทธ์จะปฏิบัติตามคำสัญญาที่เปล่งออกมา เพราะว่าเมื่อลงสู่สนามการแข่งขันเพื่อช่วงชิงอำนาจที่มีการเดิมพันผลแพ้ชนะสูงเช่นการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ความเสี่ยงที่จะใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์แต่พรรคการเมืองที่ตนเองสนับสนุน และสร้างอุปสรรคแก่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามก็มีโอกาสเกิดสูงยิ่ง

ถึงที่สุดแล้วหากพลเอกประยุทธ์ยืนกรานว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลร้อยแปดที่หยิบยกขึ้นมาอ้าง ก็คงไม่มีใครจะไปบังคับหรือขับไล่ได้

แต่ในอีกตำแหน่งหนึ่ง คือตำแหน่งหัวหน้าคสช. ไม่มีเหตุผลใดๆเลยที่พลเอกประยุทธ์จะอ้างเพื่อให้ตนเองดำรงตำแหน่งนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ควรแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคสช.

เหตุผลก็คือ ตำแหน่งหัวหน้าคสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการทำสิ่งใดๆก็ได้ในประเทศนี้ โดยใช้มาตรา 44  อำนาจเบ็ดเสร็จเช่นนี้เป็นอำนาจที่พลเอกประยุทธ์มีมากกว่าอดีตนายกรัฐมนตรีคนใดๆของประเทศไทยในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง

ยิ่งกว่านั้น คสช.ยังมีอำนาจในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาอีกด้วย ซึ่งเท่ากับว่า พลเอกประยุทธ์ ที่กำลังมีฐานะที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในอนาคต เป็นผู้มีอำนาจในการเลือกคนที่จะมายกมือสนับสนุนตนเองให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกด้วย ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนนั่นเอง การกระทำแบบนี้ผิดหลักธรรมาภิบาลอย่างรุนแรง

ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสี่ยงในการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์แก่ตนเอง การเล่นพวกเล่นพ้อง และการทำให้การเลือก สว. เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้ได้ สว.ที่มีคุณภาพและรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง มิใช่ได้แต่คนที่ประจบสอพลอหรือมีแต่พรรคพวกตนเอง พลเอกประยุทธ์ ควรลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช. เป็นอย่างยิ่ง

และเพื่อเป็นส่งเสริมการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารปกครองประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้า คสช.ด้วย และบรรดารัฐมนตรีทั้งหลายที่เป็นกรรมการใน คสช. ก็ควรลาออกด้วยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้เพื่อให้การใช้อำนาจของ คสช. มีความเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง คสช.จึงควรแยกและเป็นอิสระอย่างเด็ดขาดจากรัฐบาลในระหว่างการเลือกตั้ง

สำหรับบุคคลที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช.แทนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาธิการ คสช. ส่วนรองหัวหน้า คสช. ที่จะมาแทนผู้ที่ควรลาออกไปนั้นคือ ผบ.ทร. ผบ.ทอ. และ ผบ.สส.

หากทำเช่นนี้ก็จะทำให้พลเอกประยุทธ์ และรัฐบาลมีความสง่างาม เสียงครหาก็จะลดลง และคงเกียรติศักดิ์เอาไว้ได้ ขณะเดียวกันก็ทำให้ คสช. มีความเป็นอิสระอย่างเต็มที่ในการคัดเลือกคนที่มีคุณภาพและมีจิตสำนึกในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองเข้ามาเป็น สว. ในอนาคต

มติชนออนไลน์