วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 พ.อ.ดร.เศรษฐพงษ์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ว่า โดยภาพรวมบรรยากาศไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร ทั้งนี้เพราะแต่ละพรรคมีการระมัดวังตัวมากขึ้นเนื่องจากเกรงว่าจะทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง บรรยากาศที่ออกมาก็จัดว่าดีขึ้น เพราะไม่มีการตอบโต้กันไปมาของนักการเมือง รวมทั้งสื่อโซเชี่ยลมีเดียร์เข้ามามีบทบาทมาก ทำให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารความเคลื่อนไหวในแต่ละพรรครวมทั้งสามารถวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองได้ ง่ายขึ้นทำให้นักการมีความระมัดระวังในการให้ความเห็น เพราะหากตอบโต้กันไปมาเหมือนในอดีตประชาชนจะเริ่มเบื่อหน่าย ทำให้นักการเมืองเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไป ซึ่งน่าจะเปลี่ยนไปมากขึ้น เพราะพลังอำนาจของประชาชนในโลกโซเชี่ยลมีเดียร์เข้ามามีบทบาทในการเลือกตั้ง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการหาเสียงของนักการเมืองด้วย

“ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยการปรับเปลี่ยนดังกล่าว พรรคไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะที่ผ่านมาพรรคให้ความสำคัญกับจุดยืนของพรรค และบริบททางการเมืองพอสมควร และพรรคจะไม่ไปโต้แย้งกับใคร พรรคจะเน้นในการให้ความสำคัญเรื่องนยโยบายเป็นหลักซึ่งเราสามารถพูดได้ตลอดเพราะเราจะเน้นในเรื่องของนโยบายทำให้เราสามารถพูดได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ง่ายขึ้น” พ.อ.ดร.เศรษฐพงษ์ กล่าว

พ.อ.ดร.เศรษฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการส่งผู้สมัครของพรรคในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น พรรคไม่หนักใจหลังจากที่ทุกพรรคการเมืองผ่านการสมัครเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งกับทุกเขตแล้วก็ไม่หนักใจเพราะผู้สมัครทุกพรรคก็มีความรู้ความสามารถ เราในฐานะพรรคการเมืองก็เชื่อมั่นว่าเราได้คัดสรรผู้สมัครที่ดีที่สุดเป็นตัวเลือกให้กับประชาชน หลังจากนี้ผู้สมัครทุกคนต้องแข่งกับตัวเองในการทำผลงานให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจ เพราะตนเชื่อว่าคนในกทม.เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะในกรุงเทพไม่มีการเลือกตั้งมาหลายปีดังนั้นจะมีกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่มีโอกาสเลือกตั้งซึ่งตรงนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการหาเสียงครั้งนี้ รวมทั้งนโยบายพของพรรคที่ออกไปสามารถตอบโจทย์คนกรุงเทพได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่บ้านหรือเรียนออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นผลของการทำงานของพรรคที่มีความชัดเจน เชื่อนโยบายของพรรคว่าจะได้รับการตอบรับจากคนในกรุงเทพฯอย่างแน่นอน