มั่นใจชื่อ ‘ประยุทธ์’ ขายได้! ควันหลง หลัง 4 พปชร.บุกทำเนียบเทียบเชิญ “บิ๊กตู่” สื่อนอกถามไม่กลัวความเป็นทหารส่งผลภาพติดลบ ?

“อุตตม” นำ 4 กุมาร บุกทำเนียบฯ เชิญ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ เจ้าตัวตื้นตัน ที่ได้รับเกียรติ เผย เปิดกว้างทุกพรรคเชิญได้หมด “สนธิรัตน์” มั่นใจ ชื่อนี้ขายได้ สื่อนอกถาม ทำไมไม่กลัวความเป็นทหารติดตัว “อุตตม” ตอบ ไม่เป็นปัญหา

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า แกนนำ 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อเทียบเชิญขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับพิจารณาอยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคจะเสนอเป็นนายกฯในการเลือกตั้ง โดยนายกฯกล่าวว่า วันนี้ท่าทางเป็นนักการเมืองกันเต็มตัวเลย ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากวันนั้นที่มาลาออกและในการประชุมครม.ก็หายกันไป 4 คน ใจหายเหมือนกัน เพราะได้ทำงานร่วมกันมาตลอด และพวกท่านก็รู้ว่าจากนี้ต้องทำอย่างไร และวันนี้ก็ไปทำงานการเมืองกันแล้ว ก็ต้องทำกันเอง

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลก็คือรัฐบาล ต้องแยกกันให้ออก สิ่งที่ตนอยากจะฝากไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ตาม อะไรคุยกันได้ อะไรคุยกันไม่ได้ ก็อยากจะขอร้องทุกพรรค ถ้าต่างคนต่างพูดกันออกมามันก็จะเกิดความไขว้เขวกันไปหมด ปัญหาก็จะตามมา แล้วรัฐบาลหน้าก็จะเกิดปัญหาอีก ทำงานกันไม่ได้ ตนก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก ทุกพรรคการเมืองตนคาดหวังในเรื่องการสร้างความปรองดอง พรรคแห่งความสมานฉันท์และความสามัคคี ทุกคนก็สามารถพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐได้ การหาเสียงก็ระวังกันหน่อยนะ เพราะพวกท่านเป็นรัฐบาลมาก่อน มันอาจจะกระทบกระทั่งกันได้ ก็ขอให้พยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นในอนาคต

นายกฯ กล่าวว่า เราต้องรู้ว่าวันนี้บ้านเมืองเราอยู่ตรงไหนและควรเดินไปทิศทางใด ต้องช่วยแก้ไขกันรัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันคิดและหาวิธีการที่เหมาะสม อย่าไปบอกว่าทำอย่างนี้ได้เลยมันอันตราย การแก้ไขปัญหาเราจะทำทีเดียวไม่ได้มันต้องดูในภาพรวม เมื่อถึงตรงนี้พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผมพูดไปเสียนานมาทำอะไรกัน คุยซะเพลิน

จากนั้น นายอุตตม จึงได้ยื่นหนังสือยินยอมให้เสนอชื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมแฟ้มเอกสารนโยบายพรรคพลังประชารัฐให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดยนายอุตตม กล่าวว่า มีนโยบายเรื่องการปฏิรูปด้วย ในนามของพรรคพลังประชารัฐ อยากเชิญท่านนายกฯ และขอเสนอนโยบายของพรรคให้ท่านได้พิจารณา ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดดูนโยบายในเอกสาร พร้อมสอบถามว่าวันนี้พรรคพลังประชารัฐได้คุยกับพรรคอื่นๆบ้างหรือไม่ เขาทำแบบที่พรรคพลังประชารัฐทำหรือเปล่า

นายสุวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้เริ่ม แต่มีแนวคิดดังกล่าว ขณะที่นายสนธิรัตน์กล่าวยืนยันว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐเป็นรูปธรรมที่สุด และคิดว่าตรงกับสิ่งที่นายกฯคิดจึงได้มาเชิญ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามกลับไปทั้ง 4 คนว่า มั่นใจแล้ว โดยทั้ง 4 คนตอบว่ามั่นใจ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตื้นตัน ขอบคุณทุกคนและสมาชิกพรรคที่ให้เกียรติ ตนจะรับไว้พิจารณา และยังมีเวลาอีกหลายวันอยู่ ได้ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ใช่ไหม ถ้าตนตัดสินใจอย่างไรจะตอบกลับไป ขณะเดียวกันหลายพรรคก็มีการพูดจา ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนใครจะมาพบตนก็อนุญาตให้พบได้ ขอบคุณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพูดคุยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 17.18 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางกลับออกจากทำเนียบฯ ก่อนที่อดีต 4 รัฐมนตรี จะลงมาให้สัมภาษณ์ โดยนายอุตตม ให้สัมภาษณ์ว่า มาเรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ โดยบรรยากาศการพูดคุยวันนี้ดีมาก เรานำเอกสารสรุปนโยบายและเอกสารความเป็นมาของพรรค มาเสนอให้นายกฯ ประกอบการพิจาณา ซึ่งนายกฯ กรุณารับเรื่องไว้และได้เปิดนโยบายดู พร้อมบอกว่าเดี๋ยวขอไปคิดดูในรายละเอียดอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ท่านพร้อมก็จะให้คำตอบ ซึ่งมีเวลาถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้นายกฯ ฝากประเด็นสำคัญคือ การที่เราจะทำการเมืองขอให้ทำอย่างสร้างสรรค์ เน้นการปรองดอง การแข่งขันย่อมมีเกือบทุกพรรค แต่อยากเห็นการทำการเมืองของทุกพรรคเน้นประโยชน์ของประชาชนสูงสุด แข่งขันกันในกฎเกณฑ์กติกา นายกฯ ได้ฝากพวกเราในฐานะทำงานการเมือง

เมื่อถามว่า ฟังแนวโน้มแล้วคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราตอบในส่วนของนายกฯ ไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเราคาดว่านายกฯ จะพิจารณารับคำเชิญของพรรค เมื่อถามว่า นโยบายที่นำเสนอไป จะสอดคล้องกับความคิดของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมา นายอุตตม กล่าวว่า เราเชื่อว่านโยบายของเราไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำมา แต่แน่นอนว่าพรรคมีนโยบายของพรรคเป็นหลัก จึงนำมาเสนอนายกฯ ซึ่งนโยบายหลายส่วนเป็นของใหม่ ก็ต้องให้โอกาสนายกฯ พิจารณา

เมื่อถามว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับเทียบเชิญในบัญชีนายกฯ เราจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายอุตตม กล่าวว่า ในเรื่องนี้ขอให้นายกฯ พิจารณาก่อน อย่าเพิ่งไปพูดว่านายกฯ จะไม่รับ พรรคมีความพร้อมสำหรับทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้จะให้ไปพูดก่อนคงไม่เหมาะสม ต้องให้เกียรตินายกฯ พิจารณา

เมื่อถามว่ามีนโยบายใหม่ๆในการสร้างความปรองดองอย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคนี้เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสังคมไทย จุดยืนของพรรคต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง และพรรคเราไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร จะไม่ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับใครด้วย แต่จะสร้างความสมานฉันท์ เพื่อให้การเมืองไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างราบรื่น

เมื่อถามถึงเสียงท้วงติงที่นายกฯใช้สถานที่ราชการต้อนรับทั้ง 4 คนนั้น นายอุตตม กล่าวว่า เราได้ประสานกับคณะทำงานของนายกฯและได้รับแจ้งให้เข้าพบเพื่อเทียบเชิญที่สถานที่ทำงาน หลังเวลาราชการ ทั้งนี้ นายกยังได้ฝากบอก ว่าพร้อมต้อนรับทุกพรรค ไม่ได้เจาะจงพรรคใดพรรคหนึ่ง พรรคการเมืองใดมีความประสงค์จะมาพบเพื่อเทียบเชิญ นายกฯพร้อมต้อนรับ เช่นเดียวกับพรรคเรา การเข้าพบวันนี้ไม่ได้อ้อนใดๆ ขณะที่นายกฯก็แสดงความน่ารักอย่างมาก

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการนัด พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อหาหรืออีกเรื่องนโยบายอีกหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า หากนายกฯสนใจ ต้องการลงในรายละเอียดของนโยบายพรรค เราก็พร้อมนำเสนอ ทั้งนี้ หากนายกฯสนใจ แต่จะขอปรับเปลี่ยนนโยบาย ก็ได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าในระหว่างนี้ที่รอการตอบรับพรรคจะนำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปหาเสียงหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า คงไม่ทำอย่างนั้น ในช่วงนี้ เราจะไม่ใช้ชื่อของท่านในการหาเสียงในตอนนี้แน่นอน

สื่อต่างประเทศถามว่า เพราะเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์จึงเป็นตัวเลือกที่จะดึงดูดคะแนนเสียงได้ เนื่องจากการเป็นอดีตนายทหารของ พล.อ.ประยุทธ์อาจส่งผลลบต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์ เอง นายอุตตม ตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า ทางพรรคได้พิจารณาผู้ที่มีศักยภาพ ที่ทางพรรคจะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างหนัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทางพรรคได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อพิจารณารายชื่อดังกล่าว สำหรับคุณสมบัติหลักไม่กี่ข้อของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อที่ทางพรรคให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่ การที่ทางพรรคเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่เหมาะสมต่อการเป็นผู้นำประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความสามารถในการนำพาประเทศผ่านช่วงที่ยากลำบากไปได้ ประเทศไทยมีการเติบโตทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคม และไม่ถูกทิ้งข้างหลังในโลกที่เราอยู่อาศัยนี้ นอกจากนี้ ทางพรรคยังเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่มีคุณธรรม และได้แสดงออกมาให้เห็นแล้ว และยังมีความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากสำหรับบุคคลจะเป็นผู้นำประเทศไทย ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ ทางคณะกรรมการพรรคจึงสรุปว่า ทางเราควรนำเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ไม่ได้เป็นของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นแล้ว สำหรับทางพรรค สิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯคือ บุคคลที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำที่สุด โดยไม่เกี่ยวกับอาชีพที่เขาหรือเธอเคยทำมาก่อนในอดีต” นายอุตตม กล่าว

ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นายกฯ เองก็เปิดกว้างและฝากบอกว่า พรรคใดที่จะเรียนเชิญ ท่านก็เปิดกว้างในการที่จะรับหนังสือเชิญ ไม่ใช่เฉพาะพรรคพปชร. ส่วนที่นายกฯ จะตัดสินใจอย่างก็แล้วแต่ดุลยพินิจ เพราะนายกฯ อยากเห็นประชาธิปไตยที่เปิดกว้าง ไม่ใช่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หากมีพรรคใดที่ประสงค์นายกฯ ก็ยินดี เพื่อให้ทุกฝ่ายมาปฏิรูปการเมือง เข้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงคิดว่าชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จะขายได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การเสนอผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งของพรรค เราต้องดูว่าบุคคลผู้นั้น เหมาะสมกับบริบทการเมืองปัจจุบันหรือไม่ มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ได้รับศรัทธาจากประชาชน และมีความซื่อสัตย์สุจริตที่พิสูจน์ได้หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน จึงเป็นเหตุผลที่พรรคนำเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ เราได้แสดงจุดพรรคให้นายกฯรับทราบ ว่าตั้งใจทำอะไร และแก้ไขปัญหาประเทศอย่างไร มีนโยบายที่เป็นรูปธรรมอย่างไร มีส่วนใดบ้างที่จะเชื่อมต่อกับนโยบายของรัฐบาลนี้

ขณะที่ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯได้เปิดดูนโยบายที่เรานำไปให้ท่านประกอบการพิจารณา ซึ่งนายกฯได้ขอเวลาพิจารณา โดยระบุว่าตัวท่านเองก็พร้อม ถ้าหากจะมีพรรคอื่นสนใจ จะเชิญท่านอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ก็สามารถมาหาท่านที่ทำเนียบรัฐบาลได้เช่นกัน เพราะนี่คือที่ทำงานของท่าน แต่ให้มานอกเวลาราชการ อย่างไรก็ตาม รู้สึกตื่นเต้น เพราะเดี๋ยวจะมีคนมาแย่งกับเรา ก็คงต้องลุ้นกันอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์