“จตุพร” ลั่นเลือก “สงคราม” แคนดิเดตนายกฯ เย้ยไม่หนักใจเหมือน “ประยุทธ์”

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ห้องอภิวันท์ วิริยะชัย ชั้น 5 อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว พรรคเพื่อชาติ ได้จัดงาน แถลงนโยบายและเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เขต และบัญชีรายชื่อทั้ง 500 คน อย่างเป็นทางการ นำโดย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วยการปาฐกถาพิเศษ “บทเรียนกับการเลือกตั้งของประเทศไทย” โดย 2 ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.

นายยงยุทธ กล่าวว่า บุคลิกของพรรคเพื่อชาติ คือต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของเผด็จการ แม้การคุกคามนักประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ ชีวิตของพวกตนเดินอยู่บนเส้นด้าย เพราะระบบเผด็จการที่ฝังรากลึกในประเทศไทยเป็นอันตรายต่อคนที่ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย พวกท่านต้องไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชนว่าอย่าสิ้นหวัง วันนี้เรายืนอยู่ถูกที่แล้ว แต่คนที่อยู่ผิดที่โดยอ้างเรื่องคดี ฯลฯ เขาก็ไป โดยที่เขาไม่ได้บอกเราว่าเขารับ 50-60 ล้านบาทด้วย ดังนั้น คนแบบนี้อย่าให้มีที่ยืน ส่วนฝั่งประชาธิปไตยด้วยกัน คนจะเลือกที่นโยบายเอง ท่านอย่าไปฟังข่าวลือที่ว่าพรรคนี้เป็นพรรคที่เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น เพราะเราเป็นองค์กร เป็นสถาบันทางการเมืองของเรา พรรคเพื่อชาติ เราจะเป็นอาวุธร้ายที่จะเข้ามาทำลายเผด็จการ

นายจตุพร กล่าวว่า สนามการเลือกตั้งห่างมาร่วม 5 ปี นักการเมืองน้อยมากที่จะได้ลงพื้นที่ตามปกติ นี่จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนใหม่ๆ ทั้งนี้ กระแสพรรคเพื่อชาติ เป็นพรรคที่ประชาชนไม่รังเกียจ เขาเปิดประตูอ้าแขนรับ วันนี้เราต้องทำให้ประชาชนเข้าใจก่อน และเมื่อประชาชนเข้าใจแล้ว คะแนนจะตามมาเอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราพยายามอธิบายหาทางออกให้กับชาติ เพื่อท้ายที่สุดเราจะคืนประชาธิปไตย วันนี้พรรคพลังประชารัฐแห่ขันหมากไปเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ที่ฉีกดอกกุหลาบว่าจะรับ-ไม่รับ อยู่ในทำเนียบ เพราะเป็นตำแหน่งที่น่าหนักใจ พล.อ.ประยุทธ์มีเวลาถึงวันที่ 8 ในการตัดสินใจ แต่พรรคเพื่อชาติ ไม่ต้องคิดมาก นายสงคราม คนเดียวก็จบ
ตนอยากจะบอกนายสงครามว่า ตนช่วยใครหาเสียงได้เป็นนายกรัฐมนตรีทุกคน ยังไม่พลาดแม้แต่รายเดียว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เหมือนเดิม เป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว ดังนั้นรวมกันแพ้ แยกกันชนะ ไม่ใช่การตัดคะแนนกัน นอกจากนี้ ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจว่า หากเลือกพรรคเพื่อชาติแล้ว นอกจากจะได้ประชาธิปไตย ยังได้แก้ไขปัญหาให้ชาติ และประชาชนด้วย

นายจตุพร กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เดิมพันหมดหน้าตักกันหมด เราต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จ เราต้องเดินให้สุด สู้กันจนหมดแรง ทุกปัญหาคือโอกาสทั้งสิ้น พรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่คู่แข่งของเรา แต่เป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น เพราะคู่ชกที่ชกได้ง่ายที่สุดคือ พรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น ขนาดปิดตาชกยังชกถูก สถานการณ์เป็นความได้เปรียบของพรรคเพื่อชาติ แต่ยังยืนยันจุดยืนว่าพรรคเพื่อชาติ จะเป็นเกาะกลาง เราสามารถพูดคุยกับใครก็ได้ แต่เราจะไม่เปลี่ยนจุดยืน พรรคเพื่อชาติ คือพรรคที่จะมาล้มแชมป์เก่า เพื่อเป็นแชมป์คนใหม่ที่มารับใช้พี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ บรรยากาศ บริเวณที่ทำการพรรคเพื่อชาติ และ ห้องอภิวันท์ วิริยะชัย เป็นไปอย่างคึกคัก มี กรรมการบริหารพรรค และ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เดินทางกันมาร่วมงานอย่างครบครัน