เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพร้อมผู้นำเหล่าทัพ และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 ร่วมพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในประเทศที่วันนี้ต้องหยิบยกมาเป็นเรื่องแรกคือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศ สิ่งสำคัญคือปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งถูกละเลย ปล่อยทิ้งให้ประชาชนผู้เดือดร้อนต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวลำพัง ทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมาอย่างยาวนาน ประชาชนต้องเดินทางกลับจากการเจรจาประนีประนอมหนี้ ด้วยมือเปล่าซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นสิบๆ ครั้ง บางรายถูกดำเนินคดีจากกลุ่มนายทุนที่ฉ้อฉลกลโกง จนแทบไม่มีที่ยืน ขาดที่พึ่งหมดศรัทธาจากเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้ “ปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นปัญหาสำคัญของประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องเร่งรัดแก้ไขโดยเน้นย้ำให้มีการบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบ มีความต่อเนื่องและต้องดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ซึ่งต่อมา พล.อ.ประวิตรได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันในการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจัง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (ศปฉช.ตร.)คำสั่ง ตร.ที่ 466/2561 ลงวันที่ 10 ส.ค.2561 ขึ้นเพื่อให้การปฏิบัติปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วตามนโยบายของรัฐบาล โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีการสั่งการให้ประสานการปฏิบัติกับตำรวจภูธรต่างๆ ในการดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่” ซึ่งได้ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเร่งรัดปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะบุคคล กลุ่มบุคคล ที่มีพฤติการณ์ฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ทำการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งให้มีกลไกในการเจรจา ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งกับเจ้าหนี้ และลูกหนี้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงการกระทำความผิดทางอาญาอื่นใด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.อ.ประวิตร ยังริเริ่มในการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยการจัดให้มีการขึ้นทะเบียนนายทุนในพื้นถิ่น จังหวัด ตำบล อำเภอ หมู่บ้าน โดยการนำกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่เชิงรุก ผ่านรูปแบบสินเชื่อของรัฐฟิโกไฟแนนเชี่ยน และนาโนไฟแนนเชี่ยน เพื่อให้ที่ดินของประชาชนเหล่านี้ไม่ต้องย้อนกลับไปตกในมือของนายทุนอีกครั้งพร้อมทั้ง พล.อ.ประวิตร ยืนยันอย่างแน่วแน่ ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ลบภาพความทุกข์จากการเป็นหนี้ที่ไม่เป็นธรรม เหมือนในอดีตที่ผ่านมาจึงนำแนวทางการบูรณาการขับเคลื่อนทุกภาคส่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง สำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์, กอ.รมน. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยนำการบังคับใช้กฎหมาย นำการเจรจาประนีประนอม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและจะคืนโฉนดที่ดินให้ถึงมือประชาชนคนสุดท้าย โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้เร่งขับเคลื่อน มุ่งมั่น ลงพื้นที่ทั้งภาคอีสานตอนบน และตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้ อย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้รัฐบาลได้มีการคืนโฉนดที่ดินสู่มือประชาชนลดความเหลื่อมล้ำอย่างจับต้องได้ไปแล้ว เป็นจำนวนโฉนดที่ดินเกือบ 15,000 ฉบับ จำนวนเนื้อที่กว่า 45,000 ไร่ มูลค่าทรัพย์สินถึง เกือบสองหมื่นล้านบาท พร้อมนี้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ยังริเริ่มในการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยการจัดให้มีการขึ้นทะเบียนนายทุนในพื้นถิ่น จังหวัด ตำบล อำเภอ หมู่บ้าน โดยการนำกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่เชิงรุก ผ่านรูปแบบสินเชื่อของรัฐฟิโกไฟแนนเชี่ยน และนาโนไฟแนนเชี่ยน เพื่อให้ที่ดินของประชาชนเหล่านี้ไม่ต้องย้อนกลับไปตกในมือของนายทุนอีกครั้ง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร ยืนยันอย่างแน่วแน่ ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ลบภาพความทุกข์จากการเป็นหนี้ที่ไม่เป็นธรรมเหมือนในอดีตที่ผ่านมา และในวันนี้ เราสามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยคืนโฉนด ทำให้ลูกหนี้ได้รับคืนทรัพย์สิน ในครั้งนี้ จำนวน 2,273 ราย โฉนดที่ดิน จำนวน 1,988 ฉบับ เนื้อที่ 5,481 ไร่ 1 งาน 92 ตารางวา มูลค่าทรัพย์สิน 3,919,108,228 บาท มอบคืนโฉนดที่ดินให้กับประชาชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ กำหนดให้ “ปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นปัญหาสำคัญของประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องเร่งรัดแก้ไข โดยเน้นย้ำให้มีการบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบ มีความต่อเนื่องและต้องดำเนินการอย่างจริงจัง กับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และองค์กรบังคับใช้กฎหมายทั้งหมดไปพร้อมๆ กัน ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพกร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ตลอดจนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ จนกระทั่งสามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันในการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจัง จนกระทั่งสามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจับต้องได้ โดยในห้วงหนึ่งปีที่ผ่านมาได้มีการบังคับใช้กฎหมายยึดและคืนโฉนดที่ดินให้กับประชาชนได้เป็นจำนวนมา โดยรัฐบาลจะไม่หยุด และจะไม่ทอดทิ้งให้ประชาชนแม้แต่คนเดียว ให้ต้องต่อสู้ถูกฉ้อฉลกลโกงอย่างโดดเดี่ยวและลำพัง และจะเดินหน้าปราบปรามขบวนการและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จนกระทั่งถึงประชาชนคนสุดท้ายของแผ่นดิน

พลเอกประวิตรกล่าวอีกว่าวันนี้สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยคืนโฉนด ทำให้ลูกหนี้ได้รับคืนทรัพย์สิน ในครั้งนี้ จำนวน 2,273 ราย โฉนดที่ดิน จำนวน 1,988 ฉบับ เนื้อที่ 5,481 ไร่ 1 งาน 92 ตารางวา มูลค่าทรัพย์สิน 3,919,108,228 บาท (สามพันเก้าร้อยสิบเก้าล้านหนึ่งแสนแปดพันสองร้อยยี่สิบแปดบาท)’ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเหน็ดเหนื่อย จริงจัง มาจนถึงวันนี้ ที่จะได้มีการมอบคืนโฉนดให้กับพี่น้องประชาชนเป็นครั้งที่ 7 และขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชน ที่มารับมอบโฉนดในวันนี้ด้วยผมขออวยพรให้ทุกท่าน ประสบแต่ความสุขความเจริญ เดินทางกลับ โดยปลอดภัย กระทำสิ่งใดขอให้สำเร็จตามความมุ่งหมายทุกประการ

มติชนออนไลน์