วันที่ 28 มกราคม 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นางอองซาน ซูจี มุขมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศพม่ากล่าวเปิดการประชุมด้านการลงทุน โดยชักชวนนักลงทุนจากทั่วโลกร่วมลงทุนในพม่า เพื่อชดเชยกับผลกระทบเชิงลบจากวิกฤตชาวโรฮิงญาและการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นไปอย่างล่าช้า

โดยนางซูจีกล่าวว่า เศรษฐกิจพม่ามีศักยภาพ ลักษณะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์น่าดึงดูด ตลาดภายในขยายตัวและประชากรรุ่นหนุ่มสาว

“ตนขอยืนยันความตั้งใจของเรานี้ที่ดำเนินการปฏิรูปต่อและสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการลงทุน ดังนั้น ได้โปรดเดินทางเยือนพม่า และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยโอกาสและเป็นสักขีพยานในความสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจที่เราค้นพบใหม่ด้วยสายตาของคุณเอง

การเปิดตัวงานการลงทุนครั้งนี้ หวังเป็นสัญญาณต่อการเปลี่ยนแปลงต่อแนวทางของรัฐบาลในชุมชนทางธุรกิจ ซึ่งจนถึงตอนนี้ นักลงทุนหลายคนต่างร้องเรียนรัฐบาลที่ให้ความสนใจส่วนใหญ่กับการยุติสงครามขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ การปฏิรูปเศรษฐกิจและความต้องการของพวกเขาที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

อย่างไรก็ตาม นางซูจีไม่ได้กล่าวถึงสุนทรพจน์ต่อวิกฤตโรฮิงญาและผลกระทบต่อการลงทุนโดยนักธุรกิจต่างแสดงความกังวลถึงมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกซึ่งยับยั้งเศรษฐกิจภายใต้การปกครองของกองทัพ

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ปีที่แล้วได้บ่งชี้ว่า นักลงทุนต่างชาติต่างชะลอการรับรองโครงการจนกว่าความชัดเจนถึงสถานการณ์ยังคงคลุมเครือ

ขณะที่สหภาพยุโรปกำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรทางการค้าจากวิกฤตดังกล่าว โดยเฉพาะการระงับมาตรการยกเลิกภาษีซึ่งทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทอที่สำคัญของพม่าได้รับผลกระทบและทำให้คนหลายพันต้องเสี่ยงตกงาน โดยเฉพาะภายในเดือนนี้ อียูประกาศมาตรการภาษีนำเข้าข้าวจากพม่าและกัมพูชา

ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์เมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของพม่าจะตกลงไป 6.2%ในปีงบประมาณ 2018-2019 ซึ่งความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการลดมูลค่าลงมาจากผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากวิกฤตโรฮิงญา รวมถึงปัจจัยอื่นที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้า