วันที่ 28ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 15 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนของนายจ้างเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ในขณะที่ค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นเพียง 2 เท่ากว่า สร้างความน่าเป็นห่วงถึงความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มทุนกับผู้ใช้แรงงาน ช่องว่างนี้จะถูกถ่างออกไปอีก เพราะกลุ่มทุนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่สร้างกำไรมหาศาล ในขณะที่ค่าจ้างแรงงานจะถูกกด เนื่องจากบางส่วนถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี

การปรับค่าแรงขั้นต่ำอย่างเหมาะสมและจริงจัง เป็นสิ่งจำเป็นและเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มผลิตภาพของแรงงาน ประเทศไทยจะต้องไม่ใช่ประเทศผู้ใช้แรงงาน ไม่ใช้ค่าแรงถูกเป็นตัวดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอีกต่อไป พรรคเพื่อไทยมุ่งหน้าสร้างประเทศให้สามารถดึงดูดการลงทุนผ่านแรงงานที่มีผลิตภาพสูง ทักษะสูง เป็นประเทศที่มีความหวังทางเศรษฐกิจผ่านความเชื่อมั่น และความเชื่อถือในรัฐบาลพลเรือนที่มีศักยภาพสูงในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ

การปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็นการเพิ่มรายได้แก่แรงงานแบบถาวร ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าการแจกเงินเป็นครั้งอย่างที่ทำๆกันอยู่อย่างเทียบกันไม่ได้ ประชาชนจะใช้จ่าย จะลงทุน หากเชื่อมั่นในรายได้ถาวรในอนาคต ไม่ใช่เงินได้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นครั้งๆ

พรรคเพื่อไทยยืนยันหลักแนวคิดการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างศักยภาพให้กับประเทศ โดยสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยพิจารณาความพร้อมของผู้ประกอบการและลูกจ้าง พรรคเพื่อไทยมีอดีตเป็นเครื่องยืนยันว่าในขณะที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สามารถปรับลดภาษีนิติบุคคล และเศรษฐกิจยังขยายตัวได้อย่างเหมาะสม