ขอบคุณข้อมูลจาก | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“ธนาธร” เชื่อ ผู้สมัครส.ส.อนาคตใหม่มีจุดแข็ง คือไม่เคยอยู่ในระบบอุปถัมภ์ ฉะ 4 รมต.พปชร.-คสช. ไม่เกรงใจประชาชน-ไร้ยางอาย
เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ซ.พหลโยธิน 7 (อารีย์) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) พร้อมด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค นายคริส โปตระนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 พญาไท ราชเทวี จตุจักร พร้อมทีมงานพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. และนโยบายของพรรคกับประชาชนและร้านค้าในย่าน ซ.อารีย์ โดยมีประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายรูปกับนายธนาธรจำนวนมาก
นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ว่า เรามีความพร้อมทุกด้าน โดยจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต และในส่วน กทม.ครบทั้ง 30 เขต เราส่งคนใหม่ทั้งหมดและเป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบอุปถัมภ์หรือเป็นนักการเมืองมาก่อน ซึ่งคิดว่านี่จะเป็นจุดแข็ง ทั้งนี้ในส่วนของนโยบายพรรคที่เปิดตัวไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาก็ได้รับเสียงตอบรับจากนักวิชาการและประชาชนทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ในส่วนของตัวแทนพรรคประจำจังหวัดก็ครบแล้ว 70 จังหวัด อีก 7 จังหวัดอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางเอกสารกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ซึ่งไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนประกาศเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียในการหาเสียงนั้น นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องนี้ประชาชนสับสนมาก แต่ยืนยันว่าประชาชนยังสามารถโพสต์โซเชียล และแสดงความคิดเห็น มีสิทธิเสรีภาพในการพูด การโพสต์เฟซบุ๊กหรือใช้โซเชียลเป็นปกติ ขอประชาชนอย่าเข้าใจผิด สำหรับในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรคการเมืองก็ยังมีเสรีภาพอยู่ เพียงแต่ต้องลงทะเบียนก่อนว่าโซเชียลมีเดียของตัวเองมีกี่ช่องทางเมื่อลงทะเบียนกับ กกต.เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถโพสต์ได้ตามปกติ แต่ในความเห็นส่วนตัว คิดว่าการต้องลงทะเบียนกับ กกต.ทำให้เกิดความยุ่งยากวุ่นวาย เป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ทั้งที่ก่อนหน้ามีพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) ทุกคนก็ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อใกล้การเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้ก็ควรจะทำได้เหมือนเดิม ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นอุปสรรค
นายธนาธร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ ทุกเพจและทุกช่องทางได้ดำเนินการตามระเบียบของกกต.เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ป้ายหาเสียงก็เช่นกัน ขอให้ กกต.มีความชัดเจนด้วย ไม่เช่นนั้นพรรคการเมืองใหม่จะเกิดการเสียเปรียบ ซึ่งเราเห็นว่ากฎเกณฑ์การเลือกตั้งต่างๆ ในรอบนี้เป็นกฎที่ตั้งขึ้นมาภายใต้แนวคิดที่จะจำกัดกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง ตนขอเรียนว่าพรรคการเมืองไม่ใช่หน่วยงานราชการ แต่เป็นนิติบุคคลที่มีอิสระ เสรีภาพที่จะกระทำการใดๆ ก็ได้ ตนคิดว่ากฎหมายที่เขียนขึ้นมาเสมือนว่าพรรคการเมืองเป็นหน่วยงานราชการ ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละพรรคการเมืองน้อยลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประชาธิปไตยในระยะยาว
เมื่อถามถึงกรณี 4 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ยังไม่ลาออก นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐทำ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ลาออกของแกนนำพรรค การใช้อำนาจเพื่อผลักดันให้ประชาชนมาเลือกตัวเองเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อพรรคอื่น ต้องบอกว่าพรรคพลังประชารัฐและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ทำอะไรไม่เกรงใจประชาชน ไม่มียางอาย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เรียกร้องเรื่องคุณธรรม ความถูกต้องมาตลอด 4 ปี เมื่อถึงเวลาที่ต้องแสดงความจริงใจให้ประชาชนเห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณธรรมหรือความถูกต้องก็ดี แต่ตัวเองกลับไม่ทำ แสดงให้เห็นแล้วว่า คสช.และการทำรัฐประหารแก้ปัญหาของประเทศไม่ได้