เมื่อวานนี้ (24 มกราคม 2562) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “อุตสาหกรรมไทยหลังการเลือกตั้ง” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ในอดีตประเทศไทยเคยแข่งขันกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น จากนั้นประเทศไทยก็แข่งกับประเทศมาเลเซีย ในตอนนี้ประเทศกลับกำลังแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ในอดีตรายได้ประชากรรายหัวของไทยกับเกาหลีใต้เคยเท่ากัน แต่ในปัจจุบันห่างไกลกันอย่างมาก ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาทบทวนแนวคิดหลักของการพัฒนาอุตสาหกรรม ประเทศไทยไม่เคยพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเองเลย แต่กลับนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างชาติโดยไม่ได้ความรู้มาด้วย ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นของตัวเอง เคยสามารถผลิตยานยนต์เป็นของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดบริษัทเหล่านี้ก็ปิดตัวลงเพราะขาดการสนับสนุนและถูกกีดกันจากเงื่อนไขของกฎหมายของไทย ดังนั้น หมดเวลาแล้วที่การพัฒนาอุตสาหกรรมกลับไม่ได้มาจากเทคโนโลยีที่เกิดจากผลผลิตของคนไทย

“ผมอย่างเห็นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยึดโยงกับบ้านเรา สร้างเทคโนโลยีของคนไทย อยากเห็นการสร้างอุตสาหกรรมรถไฟโดยคนไทย ปัจจุบันประเทศไทยมีความสามารถแค่สร้างถนนเท่านั้น จากนี้ไปรถยนต์ไม่ใช่ยานพาหนะสำหรับการเดินทางแต่ คือ รถไฟ รถบัสไฟฟ้า ประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะสร้างสิ่งเหล่านี้ โดยไม่ต้องไปซื้อจากประเทศจีนอีกต่อไป เพราะหากเรายังนำเข้ารถไฟและรถเมล์จากจีน ไม่ต้องห่วงเลยว่า เราจะต้องเสียดุลการค้า ปีเดียวเรานำเข้ารางรถไฟปีละกว่า 2 พันล้าน ทั้งที่สามารถสร้างได้ในประเทศไทย หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง จะทำให้เกิดการจ้างงานมหาศาล” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า แม้แต่เทคโนโลยีการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อแปรรูปสินค้าการเกษตรเลยยังไม่เป็นเครื่องจักรที่สร้างโดยคนไทยแต่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แม้แต่เครื่องจักรแปรรูปสินค้าเกษตรขั้นพื้นฐานประเทศไทยยังไม่มีเทคโนโลยีนี้เลยเช่น การแปรรูปน้ำยางพารา หรือแม้แต่การเก็บข้าวสารในปัจจุบันของไทยถือว่าล้าสมัยมาก เป็นโกดังที่ไม่มีประเทศไหนในโลกใช้โกดังแบบใช้คนแบกข้าวสักกระสอบแล้ว ในต่างประเทศใช้เทคโนโลยีโกดังเก็บข้าวสารแบบปิดเพื่อรักษาคุณภาพของข้าวสารเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า หนักกว่านั้นชาวนาในต่างจังหวัดยังต้องเอาข้าวไปตากที่ถนน แต่ในประเทศญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีเครื่องอบข้าว ทุกพรรคการเมืองพูดถึงเรื่องการแปรรูปสินค้าการเกษตรด้วยเทคโนโลยี แต่จนถึงตอนนี้ประเทศไทยยังไม่มีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างเครื่องจักรเป็นของตัวเอง

“การพัฒนาอุตสาหกรรมไม่ได้ตั้งอยู่โดด ๆ แต่ยึดโยงกับการเมืองด้วย หลายคนในที่นี้มีฐานะ มีคุณภาพชีวิตที่ดีมาก อยากให้ทุกท่านช่วยกันพัฒนาการเมืองพร้อมกับการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยด้วย ขอให้ทุกท่านกล้าฝัน ฝันไปพร้อมกันที่จะพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกันกับการพัฒนาอุตสาหกรรม เราจะพึ่งการส่งออกอย่างเดียวไม่ได้อีกแล้ว แต่ต้องพัฒนาศักยภาพคนไทยให้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มรายได้ประชากรเพื่อเข้าไปมีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทย” หัวหน้าพรรคอนาคตไทย กล่าว