‘วิญญัติ’ชี้ปม คำสั่งคสช.ปลดล็อคนายกอบจ.เอื้อเลือกตั้ง โยงถ้าชง”บิ๊กตู่”ชิงนายกฯขัดรธน.

“ทนายวิญญัติ”ชวนจับตาคำสั่ง คสช.ปลดล็อคผู้บริหารท้องถิ่น เอื้อประโยชน์เลือกตั้ง ชี้หากชงชื่อ”บิ๊กตู่” พฤติการณ์เกี่ยวโยงผิดกฎหมายเลือกตั้งขัดรธน.

เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) ได้ให้ความเห็นถึงกรณีที่มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีเรื่อง เปลี่ยนแปลงคำสั่ง หัวหน้า คสช.ได้ปลดล็อก ม.44 คืนตำแหน่งให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ซึ่ง1ในนั้นรวมถึง นายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร พี่ชาย ของนายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งในปัจจุบัน เป็นแกนนำอดีต ส.ส.ของจังหวัดกำแพงเพชร เข้าร่วมสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะเห็นได้สดๆร้อนๆกับการใช้อำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เคยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.หลายฉบับเกี่ยวกับการประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ให้พักการปฏิบัติหน้าที่ โดยที่ระหว่างถูกตรวจสอบหรือถูกกล่าวหา นั้นให้มีการระงับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นั้นไว้ชั่วคราวรวมหลายร้อยคน

เรื่องนี้บางคนมองว่า คสช. ดูจะแข็งขันคล้ายกับว่าเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามทุจริตและตรวจสอบผู้บริหารส่วนท้องถิ่น โดยให้แขวนตำแหน่งไว้โดยไม่มีการเลือกตั้งทั้งๆที่ถึงวาระต้องเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ในทางการเมืองที่สัมพันธ์กันทั้งระบบย่อมเป็นการสลายอิทธิพลในส่วนท้องถิ่นไปในตัว เเละส่งผลให้ในระหว่างที่มีการสอบสวนผู้บริหารท้องถิ่นที่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ เป็นผลให้บางคนไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งแม้จะครบวาระก็ตาม ซึ่งคำสั่งนี้ก็เปรียบเสมือนเป็นสร้าง “มัมมี่ทางการเมือง” ขึ้นมา จะเห็นได้ว่าการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้ คสช. ที่เกิดขึ้นนั้นตอกย้ำความพิสดารและกระทบต่อระบบคุณธรรมของข้าราชการและอาจทำลายหลักการกระจายอำนาจส่วนต่างๆแล้ว เเต่พอถึงคราวจะหาเครื่องมือขึ้นมา คสช.ก็ทำให้”มัมมี่ทางการเมือง”ฟื้นคืนชีพอีกครั้งด้วย ม.44 โดยสั่งปลดล็อกให้ผู้บริหารส่วนท้องถิ่นเหล่านั้นคืนสู่ตำแหน่งนั่นเอง คำถามก็คือ ในครั้งออกคำสั่งตรวจสอบและสอบสวนแขวนด้วยนัยยะทางการเมือง ผลการตรวจสอบเป็นประการใด คนเหล่านั้นไม่มีข้อครหาแล้วหรือไม่ ตรงนี้จึงเป็นข้อสงสัยที่ภาคประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบจับตาต่อไป ดูผลของการใช้อำนาจตาม ม.44 ถือเป็นผลประโยชน์ตอบแทนทางการเมืองด้วยหรือไม่ ตรงนี้จะใช่หรือไม่ สามารถใช้วิจารณญาณพิเคราะห์ได้

นายวิญญัติกล่าวต่อว่า ปรากฏการณ์ที่เห็นแล้วทำให้บางคนที่เคยถูกแขวนตำแหน่งก็ดี ลีลาการดูดนักการเมืองหรือย้ายขั้วการเมืองก็ดี ล้วนแต่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองแทบทั้งสิ้น ที่ทำมานั้นก็เพื่อจะอำนวยการให้พรรคใดเอาชนะการเลือกตั้งหรือให้ใครสืบทอดอำนาจต่อไป ประชาชนคงได้เรียนรู้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ได้เห็นความหน้าด้านและเห็นแก่ตัวของแต่ละคนกันไปนอกจากที่เขียนในตำรารัฐศาสตร์ แต่ทางกฎหมายล้วนบ่งบอกว่าพวกท่านกำลังกระทำการเป็นตัวการและผู้สนับสนุนในการสมคบคิดใช้อำนาจโดยมิชอบนี้แล้ว เเละหากภายหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง จับตาว่าพรรคการเมืองใดซึ่งรวมเอาบุคคลผู้ได้รับประโยชน์จากคำสั่งนี้ เสนอชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่พรรคสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากพฤติการณ์เกี่ยวโยงกันดังที่กล่าวมาย่อมเข้าข่ายความผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ ถึงเวลานั้นประชาชนอย่างเราจึงต้องร่วมกันตรวจสอบและเอาผิดคนดีพวกนี้

มติชนออนไลน์