“ณัฐวุฒิ”กางไทม์ไลน์ลงพื้นที่ของทษช. ยกทัพใหญ่ลงใต้ ขอโอกาสนั่งในใจปชช.

“ณัฐวุฒิ” กางไทม์ไลน์ลงพื้นที่ของทษช. ตลอดเดือนมกราคม พร้อมจี้ กกต. ปฎิบัติหน้าที่ของตัวเองให้โปร่งใส บอก ปชช. เขารู้เท่าทัน

เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ตลาดน้ำดอนหวาย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและแกนนำพรรคไทยรักษาไทย (ทษช.) ถ้าถึงแผนการลงพื้นที่ของพรรคทษช. ว่า ขณะนี้ทีมปฏิบัติการเคลื่อนที่ของฝ่ายรณรงค์หาเสียงกำลังลงพื้นที่พร้อมกันทั้ง 7 จุด ไม่ว่าจะเป็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทย อันดามัน กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคอีสาน โดยลงพื้นที่ปฏิบัติการพร้อมกันทุกวัน ส่วนคณะแกนนำของพรรคไม่ว่าจะเป็นกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการยุทธศาสตร์ก็จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเช่นเดียวกัน เช่น วันที่ 24 มกราคมนี้ เราจะเดินทางไปพบปะประชาชน และปราศรัยเปิดตัวผู้สมัครที่จังหวัดเพชรบูรณ์ วันที่ 25 มกราคม ที่จังหวัดอุทัยธานี 26 ที่กาญจนบุรี หลังจากนั้นช่วงปลายเดือน เราจะยกคณะใหญ่ลงพื้นที่ภาคใต้ โดยวันที่ 29 มกราคม จะลงพื้นที่พบประชาชน และปราศรัยเปิดตัวผู้สมัครที่จังหวัดตรัง 30 มกราคมที่จังหวัดพัทลุง 31 มกราคม ที่จังหวัดสงขลา และ 1 กุมภาพันธุ์ที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่สำคัญอย่างยิ่งพื้นที่หนึ่งของการทำงานในสนามเลือกตั้งของพรรค เราพร้อมจะระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อไปพูดคุยเรื่องนโยบาย แนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน เราเชื่อว่าพี่น้องชาวใต้เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีหัวใจรักประชาธิปไตย ดังนั้น จะไปขอโอกาส ไปขอที่นั่งในใจคนปักใต้บ้าง เชื่อว่าบรรยากาศทางการเมืองจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เพราะแนวทางของพรรคทษช. เราพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเผด็จการ แต่พร้อมจะจับมือทำงานร่วมกับประชาชนทุกฝ่าย

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อกังวลของกกต.ทุกพรรคพร้อมเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ดังนั้น งานธุรการ หรืองานเอกสารคงไม่ต้องกังวล กังวลแต่ว่ากกต.พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้โปร่งใส ตรงไปตรงมา เป็นธรรม และเป็นกลางหรือยัง วันนี้การกำหนดวันเลือกตั้งจากกต. เป็นอิสระโดยแท้จริงหรือไม่ อย่างไร เป็นเรื่องที่ประชาชนจับตาดูอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตามสอบสวนนักการเมืองโดยเฉพาะของพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคทษช. อย่าเช่นกรณีที่มาสอบปากคำนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ประธานคณะกรรมการสรรหาของพรรคถึงที่ทำการพรรค มีความถามว่าได้ปฏิบัติแบบนี้กับพรรคการเมืองอื่นบ้างหรือไม่ ถ้าเพียงแต่อดีตสมาชิกพรรคพท. เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ต่างประเทศ แม้จะย้ายพรรคแล้ว ถ้ากล่าวหาว่าอดีตสมาชิกพรรคพท.บินไปพบนายทักษิณว่าเป็นการครอบงำ ถ้าอย่างนั้นนักการเมืองพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งพูดชัดอยู่ทุกวันว่านโยบายของรัฐบาลคือนโยบายของพรรค คะแนนนิยมของรัฐบาลก็คือคะแนนนิยมของพรรค และเตรียมจะเปิดตัวว่าที่นายกฯ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นคนใหญ่คนโตในรัฐบาลนี้แน่ๆ นี่ยิ่งงกว่าครอบงำพรรค แต่เป็นการครอบครองพรรคโดยคนใหญ่คนโตในรัฐบาลหรือไม่ ถามว่ากกต.มองเรื่องนี้อย่างไร มีแนวทางจะปฏิบัติให้ชัดเจน เป็นรูปธรรมหรือไม่ ดังนั้น ตนคิดว่า กกต. ต้องเตือนตัวเองให้มากๆ และต้องตระหนักว่าประชาชนเขารู้เท่าทัน และต้องการความชัดเจนในการปฏิบัติด้วย

มติชนออนไลน์