พรรคอนาคตใหม่บุกเชียงรายเปิดตัวว่าที่ ส.ส.ทั้ง 7 เขต

เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรคอนาคตใหม่มีกำหนดจัดกิจกรรมในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยจัดขึ้นในลักษณะคล้ายกับพรรคเพื่อไทยคือจัดให้มีเวทีปราศรัย ณ ลานเอนกประสงค์ ชุมชนสันโค้งหลวง ข้างวัดพระเชตุพน เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย โดยกิจกรรมมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นำคณะเดินทางไปพบปะกับสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคทั้ง 7 คนของ จ.เชียงราย เริ่มต้นจากการเดินทางไปพบปะสมาชิกที่บริเวณเวียงหนองหล่ม ต.จันจว้า อ.แม่จัน ก่อน จากนั้นช่วงบ่ายเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย ซึ่งพบว่ามีมวลชนไปให้กำลังใจอย่างคับคั่งและมีการจัดเตรียมให้เป็นขบวนรถเพื่อจะแห่ไปทั่วเมือง

ขณะเดียวกันพบว่าได้มี น.ส.ปราณี ทิพย์วัชระ แกนนำเสื้อแดง ผู้ที่เคยถือป้ายไปตะโกนไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยขณะเดินพบคารวะแผ่นดินในเขตเทศบาลนครเชียงราย เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ไปร่วมในกิจกรรมของพรรคด้วย แต่บอกกับพรรคพวกว่าการไปถือป้ายวันก่อนไม่เกี่ยวกับพรรคและไปในนามส่วนตัว

หลังจากนายปิยบุตรและคณะได้สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชแล้วได้ไปรวมตัวกันที่ร้านสวนกุหลาบ ติดลำน้ำกก ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย และจัดขบวนรถเพื่อแห่ประชาสัมพันธ์พรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ไปตามถนนธนาลัย ก่อนจะไปยังเวทีปราศรัยที่ลานเอนกประสงค์ชุมชนสันโค้งหลวงในช่วงค่ำวันนี้เพื่อนำสเนอนโยบายของพรรคและเปิดตัวว่าที่ผุ้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 7 เขตประกอบด้วยนายเอกภพ เพียรพิเศษ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายชินกร ก้าววิทยาคม เขตเลือกตั้งที่ 2 นายเจริญ บุญเลิศ เขตเลือกตั้งที่ 3 นายรัตน์ธนวัตร พุทธจันทร์ เขตเลือกตั้งที่ 4 นายประหยัด เสียงดัง เขตเลือกตั้งที่ 5 นายพีรเดช คำสมุทร เขตเลือกตั้งที่ 6 นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม เขตเลือกตั้งที่ 7 ต่อไป

นายปิยบุตร กล่าวว่า เรามีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่มาจากการยึดอำนาจโดยกองกำลัง และประเทศอยู่กับการเมืองเดิมๆ วนเวียนมาปีที่ 13 แล้ว สภาพมีแต่ความขัดแย้งและเปิดโอกาสให้ทหารเข้ามายึดอำนาจแล้วครองแบบยืดเยื้อยาวนานเป็นปีที่ 5 แล้ว เมื่อเรียกร้องเลือกตั้งก็ถูกขู่ว่าจะเกิดความขัดแย้งอีกจึงถูกหลอกให้อยู่ในวังวนการเมืองเก่า พรรคอนาคตใหม่จึงรวบรวมคนรุ่นใหม่เพื่อให้เป็นกำลังหลักในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ก้าวข้ามสู่การพัฒนาให้ได้ต่อไป และยังมีสวัสดิการเพื่อให้เป็นรัฐสวัสดิการด้วย เช่น เด็กอายุ 0-6 ปี มีเงินเข้าบัญชีเดือนละ 1,200 บาท, สร้างเม็กกะโปรเจ็คเพื่อการศึกษา, รัฐบาลทหารใช้งบประมาณการซื้ออาวุธจำนวนมากและถูกจัดสรรออกไปจากการใช้อื่นซึ่งพรรคอนาคตใหม่จะนำมาทำสวัสดิการประชาชน ลดจำนวนนายพลในกองทัพ ลดจำนวนการซื้ออาวุธลง เพื่อให้เงินผู้สูงอายุ 1,800 บาท เงินเด็กอายุ 0-6 ปีมีเงินเข้าบัญชีเดือนละ 1,200 บาท ฯลฯ แต่รัฐบาลจากการยึดอำนาจไม่คิดถึงเรื่องนี้แน่นอน, เกษตรกรมีต้นทุนโดยมีทุนใหญ่ผูกขาดไม่กี่บริษัท, การแก้ไขปัญหาและทำเรื่องดีๆ เกิดขึ้นไม่ได้หากยังเป็นรัฐบาลทหารอยู่, ประชาธิปไตยกับปากท้องเป็นเรื่องเดียวกันเพราะรัฐบาลเผด็จการไม่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องได้เพราะไม่ได้มาจากประชาชน แต่ปกครองประเทศโดยไม่เห็นหัวประชาชน จะทำนโยบาย สิ่งใดทำเลย จะสนับสนุนทุนผูกขาดก็ทำได้เพราะทุนต่างๆ เหล่านั้นสนับสนุนรัฐประหาร

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ดังนั้นรัฐบาลเผด็จการจึงต้องสนับสนุนทุนเหล่านั้นและทำให้ประชาชนไม่ดีขึ้นแน่นอน,เหตุที่ไม่ยอมเลือกตั้งแม้ผ่านมาเกือบ 5 ปีเพราะเกรงว่าเลือกแล้วจะควบคุมไม่ได้และอยากมีอำนาจต่อไปอีก และจะใช้วิธีนำรถถัง อาวุธมาตั้งฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้งโต๊ะแถลงปกครองประเทศ แล้วมากดขี่ประชาชนทุกวันแล้วยังทวงบุญคุณประชาชนอีก แต่กลับจัดทำกฎหมายเพื่อให้สืบทอดอำนาจหากมีการเลือกตั้ง,อยากให้ประชาชนระเบิดพลังในวันเลือกตั้งด้วยการเลือกพรรคอนาคตใหม่ ยุติไม่ให้ คสช.สืบทอดอำนาจต่อเพราะ 5 ปีขนาดนี้ถ้ามากกว่านี้จะฉิบหายหนัก ต้องปรับทัศนคติทหารว่าไม่ต้องมาบริหารประเทศแต่ให้อยู่ในรั้ว ถ้าอยากบริหารให้ตั้งพรรคการเมืองมาอย่างยุติธรรม อย่าฉวยอำนาจยึดอำนาจทุก 4 ปี รอทีเผลอเช่นนี้และก็สืบทอดอำนาจ แล้วตั้งพรรคดูด ส.ส.เพื่อสนับสนุนตัวเองไปเป็นนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันมีรัฐธรมนูญ 20 ฉบับแล้ว

มติชนออนไลน์