เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่(ศม.) กล่าวถึงนโยบายระบบเศรษฐกิจใหม่พร้อมประกาศให้ประเทศไทยเป็นประเทศปลอดภาษีอันดับ 1 ของโลก ว่า ประเทศฮ่องกงหรือสิงคโปร์ ที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่ประกาศเป็นเมืองปลอดภาษี ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าประเทศกันมากมาย หรือแม้กระทั่งเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่อยู่ทะเลทรายก็ยังประกาศเป็นเมืองปลอดภาษี ประเทศไทยมีรายได้อันดับ 1 มาจากการท่องเที่ยว เป้าหมายจากนักท่องเที่ยว 35 ล้านคนต่อปี โดยกำหนดรายได้อยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท อีกทั้งประเทศไทยได้รับการยกย่องให้เป็นประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ของศิลปะ วัฒนธรรม โบราณสถาน ทั้งนี้ ก่อนจะประกาศ ให้ประเทศไทยเป็นประเทศปลอดภาษีที่ใหญ่อันดับ 1 ของโลก จะต้องมีการแถลงข่าวออกไปทั่วโลก โดยนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยจะไปดูวัด ดูวัง ดูภูเขา ดูทะเล ดูธรรมชาติก็มีเสน่ห์อยู่แล้ว และถ้าแถมเป็นประเทศปลอดภาษีอันดับ 1 ของโลก ยืนยันว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามามากมาย และจะทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว แต่รัฐบาลจะต้องสงวนธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นของคนไทยเท่านั้น เงินที่นักท่องเที่ยวนำมาใช้จะต้องเข้ากระเป๋าของคนไทยโดยตรง ภาษีมูลค่าเพิ่มจะมีรายได้เพิ่มอย่างมหาศาลจากการจับจ่ายซื้อสินค้า

“เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ก็จะต้องมีการจัดการจราจรทางอากาศ ดอนเมืองอาจจะต้องเปลี่ยนระบบเปิดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องเปิดเต็ม 24 ชั่วโมง รวมถึงสนามบินอู่ตะเภา อาจเพิ่มการรองรับนักท่องเทียวอีก 3 – 4 เท่าตัว สิ่งสำคัญในประเทศไทยมีสนามบินท้องถิ่นและสนามบินนานาชาติอยู่ 35 สนามบิน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกบินไปลงในจังหวัดต่างๆ ได้ แทนที่จะมาลงที่ดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ ก่อนจะกลับมาเที่ยวในกรุงเทพฯจะเกิดการกระจายรายได้ไปทั่วประเทศ ถ้าเป็นแบบนี้เศรษฐกิจจะลงสู่ฐานรากทันที เงินจะต้องกระจายสู่คนไทยทุกหมู่เหล่า อย่างมีความสุขทั่วกันทั้งประเทศ การท่องเที่ยวจะต้องกระจายไปสู่ทุกภูมิภาค คือ ภาพรวมของประเทศไทยในการประกาศตัวเป็นประเทศสินค้าปลอดภาษีอันดันหนึ่งของโลก คือการคิดนอกกรอบ วางตำแหน่งประเทศไทยใหม่กระจายความสุขไปให้ทั่วถึงทุกคน ไม่รวยอยู่กระจุกเดียว นี่คือระบบเศรษฐกิจใหม่”นายมิ่งขวัญ กล่าว

มติชนออนไลน์