“เพื่อชาติ” ชี้ต้องยึดผังเมืองแก้ปัญหาฝุ่นควัน ยกเลิกตั้งโรงงาน 8 ประเภท

วันที่ 20 มกราคม 2562 นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ เผยว่า วันนี้ 20 มกราคม 2562 อากาศปิดอีกแล้วตนเป็นห่วงประชาชนใน กทม. ทุกคน ขอให้หลีกเลี่ยงการออกไปกลางแจ้ง แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องออกไปอย่าลืมปิดหน้ากาก 2 ชั้น เพราะรัฐบาล คสช. คงช่วยอะไรประชาชนไม่ได้ เพราะตนพบข้อมูลอีกชิ้นหนึ่งว่า คสช. และ รัฐบาลนี้คือส่วนหนึ่งของต้นเหตุของฝุ่นควันโดยตรง “เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 4/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการประกอบกิจการบางประเภท” ผลกระทบของคำสั่ง: เป็นการลดข้อจำกัดทางกฎหมายเรื่องพื้นที่ตั้งโรงงานหรือกิจการที่เกี่ยวข้องการผลิตพลังงานและการจัดการขยะของเสียสิ่งปฏิกูล ซึ่งเดิมอาจมีหลักเกณฑ์ข้อห้ามตามกฎกระทรวงฯผังเมืองรวมที่บังคับใช้อยู่ในพื้นที่อำเภอหรือจังหวัดนั้นๆ (หรืออยู่ในร่างผังเมืองรวมที่กำลังจะประกาศบังคับใช้) ทำให้หน่วยงานรัฐไม่สามารถอนุมัติอนุญาตให้ประกอบกิจการที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่ต้องการได้ เช่น พื้นที่เขตอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรมที่มีข้อกำหนดห้ามสร้างโรงไฟฟ้า เป็นต้น

คำสั่งฉบับนี้ทำให้หน่วยงานรัฐสามารถอนุมัติอนุญาตการประกอบกิจการ 1-8 ข้างล่างนี้ได้โดยไม่ต้องพิจารณาข้อห้ามตามกฎหมายผังเมือง ซึ่งเป็นมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเชิงพื้นที่ที่สำคัญอีกต่อไป (แต่ยังคงต้องพิจารณาเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งโครงการและเงื่อนไขการอนุมัติอนุญาตตามกฎหมายอื่นๆด้วย)

กิจการที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่ คสช. ใช้ ม.44 มาอนุญาติให้ไม่ต้องพิจารณาข้อห้ามตามกฎหมายผังเมือง ซึ่งเป็นมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเชิงพื้นที่ที่สำคัญอีกต่อไปมีดังนี้

(1) คลังน้ำมันตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง
(2) กิจการโรงงานลำดับที่ 88: โรงงานผลิต ส่ง หรือจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า (โรงไฟฟ้าและสถานีส่งไฟฟ้า)
(3) กิจการที่เป็นส่วนหนึ่งของการผลิต ขนส่ง และระบบจำหน่ายพลังงานของกิจการตาม (1) และ (2)
(เช่น ท่อส่งน้ำมัน สายส่งไฟฟ้า)
4) กิจการโรงงานลำดับที่ 89: โรงผลิตก๊าซซึ่งมิใช่ก๊าซธรรมชาติ (เช่น โรงงานผลิตก๊าซชีวภาพ)
(5) กิจการโรงงานลำดับที่ 101: โรงงานปรับปรุงคุณภาพของเสียรวม (เช่น โรงบำบัดน้ำเสีย เตาเผาขยะ)
(6) กิจการโรงงานลำดับที่ 105: โรงงานคัดแยกและฝังกลบสิ่งปฏิกูล วัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (เช่น หลุมฝังกลบขยะ)
(7) กิจการโรงงานลำดับที่ 106 โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม (โรงงานรีไซเคิล)
(8) กิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการกำจัดมูลฝอย

การปลดล็อกผังเมืองด้วยมาตรา 44 ทำให้เกิดโรงงานขยะพิษเพิ่มขึ้นมาก พบว่าตั้งแต่มีคำสั่งหัวหน้าคสช. มีโรงงานคัดแยกขยะพิษที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นในพื้นที่การเกษตร จังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งได้รับผลกระทบกลายเป็นแหล่งทิ้งขยะอุตสาหกรรมจากต่างประเทศจำนวน 82 โรงงาน แบ่งเป็นโรงงานขยะพิษประเภท 105 จำนวน 42 โรง โรงงานที่จดแจ้งทั้งประเภท 105 และ 106 จำนวน 3 โรง โรงงานประเภท 106 จำนวน 37 โรง จากทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 516 โรง ข้อมูลเมื่อ มิถุนายน 2561 โดยสำนักข่าว ThaiPBS แต่พอเกิดปัญหาฝุ่นควันใน กทม. จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ นายกฯ บอกเมื่อวันที่ 15 มกราคมว่า หากพบโรงงานปล่อยควันพิษเกินกำหนด จะสั่งปิดโรงงานทันที

โฆษกพรรคเพื่อชาติแสดงความคิดเห็นว่า ตนสงสัยจริงๆ ทีมงาน คสช. ที่บอกว่า ทหารรักประเทศ ก่อนที่จะใช้ ม.44 ปล่อยโรงงานขยะพิษเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่ อยากจะถามว่าคนที่ปากบอกรักประเทศได้คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและชีวิตประชาชนหรือไม่ หรือพวกท่านเป็นผู้สูงวัยที่อยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิตได้รับผลกระทบจากภาวะสิ่งแวดล้อมไม่นานจึงไม่ให้ความสำคัญในประเด็นนี้ เน้นการให้ความสำคัญกับนายทุนที่เกื้อหนุนพวกท่านแบบที่ ม.ร.ว. ปรีดียาธรได้ออกมาเปิดเผย การบริหารประเทศโดยมองไม่รอบด้านพอเกิดเหตุก็แก้ที่ปลายเหตุสั่งปิดโรงงาน ทำความเสียหายให้ประเทศอย่างมาก ทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่นด้วยความไม่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการ กลายเป็นตัวตลกในสายตาโลก และทำร้ายชีวิตประชาชนในประเทศ ถ้ารักประเทศและลูกหลานจริงตนขอร้องให้พวกท่านเกษียณตนเองจะเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติและประชาชนรุ่นต่อไปอย่างสูง หยุดสืบทอดอำนาจด้วยการบริหารงานผิดพลาดเพื่อจะทำร้ายอนาคตของชาติเสียที

พรรคเพื่อชาติมีนโยบายแก้ไขปัญหาด้วยการแก้ไขกฎหมายอันดับแรก เพราะเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และไม่ต้องใช้งบประมาณที่พลเอกประยุทธ์ให้หน่วยงานราชการมาสอดส่องพรรคการเมืองหาเสียงทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ ทางพรรคเพื่อชาติจะนำเสนอแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทุกฉบับ ทั้งกฏหมายผังเมือง โรงงานอุตสาหกรรม จราจร พลังงาน ฯลฯ โดยเราถอดบทเรียนจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่เคยประสบปัญหาฝุ่นควันจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาก่อน แต่สามารถผ่านปัญหามาได้โดยประชาชนอเมริกันกว่า 20 ล้านคนออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้รัฐบาลแก้กฏหมายสิ่งแวดล้อมให้ครบวงจร ทำให้ปัญหาฝุ่นควันพิษหมดไป พรรคเพื่อชาติเกิดมาจากประชาชนเป็นตัวแทนของประชาชน จึงนำเสนอนโยบายพร้อมแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับชีวิตและสุขภาพของประชาชน โดยพรรคเราทำให้ประชาชนโดยไม่ต้องรอให้ประชาชนมาเดินขบวนเรียกร้องขอความปลอดภัยในชีวิต นางสาวเกศปรียากล่าวทิ้งท้าย