“เพื่อชาติ” อ้อนชาวนครพนม ขอเอาประสบการณ์ช่วยแก้จน “จตุพร”ชี้ ยิ่งเลื่อน ยิ่งแพ้

เมื่อวานนี้ (19 มกราคม 2562) พรรคเพื่อชาติ นำโดย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และคณะ ได้เดินทางมาภาคอีสาน ตามกำหนดการพรรคเพื่อชาติสัญจร พร้อมทั้งเปิดสถาบันพัฒนาการเมือง โดยมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ตั้งแต่วันที่ 19-26 มกราคม 2562 โดยเริ่มวันแรกที่จังหวัด นครพนม ณ สวนชมโขง เทศบาลเมือง และ หอปู่ถลา อ.เรณูนคร จ.นครพนม

นายจตุพร กล่าวว่า คุณบุญเลื่อน เลื่อนการเลือกตั้งมาห้าครั้งแล้ว ยังไม่โกหกแค่โกห้า แต่ถ้าเลื่อนอีกครั้ง ได้ออกจากตำแหน่งแบบพลเอกสุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีแน่ การเลื่อนการเลือกตั้ง เป็นเพียงแค่การเลื่อนวันแพ้ของฝ่ายเผด็จการเท่านั้น ห้าปีที่ผ่านมา ความยากจนที่เกิดขึ้น เพราะบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย แก้ด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งภารกิจของรัฐบาลหน้า คือ ทำให้คนไทยหายจน ทั้งที่คนไทยควรหายจนตั้งแต่ปี 2552 คือเมื่อ สิบปีที่แล้ว แต่เมื่อมีคนประกาศแก้จนไม่ถึงปี คนประกาศถูกยึดอำนาจ ถ้าพี่น้องเลือกพรรคเพื่อชาติ ท่านสงคราม หัวหน้าพรรค จะมาช่วยแก้จนให้พี่น้องเอง โดยภารกิจสองเรื่องที่รัฐบาลหน้าจะต้องเข้ามาแก้คือ เรื่องประชาธิปไตย และ ทำให้คนไทยหายจน

นายสงคราม กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามีรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาให้เราได้ ในขณะที่ เราขายข้าวขาดทุน แต่ผู้มีอำนาจกลับชี้หน้าด่าประชาชน แล้วว่า.ไม่มีเงินช่วย แต่กลับมีเงินซื้อเรือดำน้ำ รัฐบาลแบบนี้หรือที่เราจะฝากความหวัง หากเราไม่ชนะ ไม่ใช่แค่จนอีกสี่ปี แต่เราจะจนไปอีก 20 ปี จากยุทธศาสตร์ชาติที่พวกเขาวางไว้ พรรคเพื่อชาติ เราต้องการมาแก้จนให้พี่น้อง ตนรู้ว่าควรทำอย่างไร จากประสบการณ์ ที่สร้างและดูแลธุรกิจส่วนตัวมา ทุกวันนี้คนจน จนทะลุดินแล้ว ความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นทุกปี เราจะไม่ยอม ให้มรดกบาปเหล่านี้ ตกถึงลูกหลาน หากเพื่อชาติได้เข้ามาทำงาน

นายยงยุทธ กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติไม่ใช่พรรคแตกเหล่าแตกกอ แต่เป็นพรรครากแก้วของประชาชน เป็นพรรคแรกที่คิดถึงปัญหาแล้วอยากมาแก้ เพราะ เรื่องแรกคือเราถูกหลอกให้ทะเลาะกัน ทั้งที่หลักของประชาธิปไตยทุกคนสามารถเห็นต่างแต่อยู่ร่วมกันได้ หากพรรคเพื่อชาติได้เป็นรัฐบาล เรามีนโยบายที่จะ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ด้วยการยกเลิกสัมปทาน การผูกขาดตัดตอน รวมถึง ตรวจสอบการเงิน บริษัทพวกที่ขุดทรัพยากร ที่ชอบขนเงินออกนอกประเทศ แล้วมากู้เงินธนาคารดอกเบี้ยต่ำ ส่วนคนจนก็ต้องกู้หนี้นอกระบบ เราจะต้องเอาเสรีของการแข่งขัน โอกาสของคนจนกลับมา