“ศรีสุวรรณ” จี้! กกต.สอบโต๊ะจีนระดมทุน พปชร. หาเหตุเงินหาย560ล้าน

เมื่อวันที่ 19 มกราคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้ออกแถลงการณ์ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อทำความจริงให้ปรากฎ กรณีเงินโต๊ะจีน ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หายไป 560 ล้านบาท หลังจากพรรคได้นำเอกสารบัญชี ผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมโต๊ะจีนระดมทุนของพรรค เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 และ บัญชีผู้บริจาคในนามบุคคลธรรมดาปิดประกาศบริเวณห้องโถงชั้นล่างที่ทำการพรรคเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา สมาคมฯเห็นว่ามีความผิดปกติหลายประการซึ่งอาจขัดหรือแย้งต่อ มาตรา 59 ประกอบมาตรา 64 และมาตรา 65 แห่ง พรป.พรรคการเมือง 2560 ประกอบด้วย

การแสดงบัญชีผู้บริจาคงานระดมทุนเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 มียอดเพียง 90 ล้านบาท ขัดต่อคำให้สัมภาษณ์ของหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกและรองโฆษกพรรค ที่ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่ามีการจำหน่ายบัตรโต๊ะจีน 200 โต๊ะ โต๊ะละ 3 ล้านบาท ได้เงินเกินเป้าถึง 650 ล้านบาท แต่เวลามาทำบัญชีรายงานพบว่า ตามบัญชีมีเพียง 90 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 560 ล้านบาทนำไปซ่อนไว้ในบัญชีใด หากจะอ้างว่าแต่ละรายบริจาคซื้อไม่ถึง 1 แสนบาทไม่ต้องรายงานนั้น ไม่น่าจะสอดคล้องกับราคาโต๊ะจีนตก 3 แสนบาทต่อเก้าอี้ เกินกว่าจำนวนที่กฎหมายยกเว้นให้ หรือเงินบริจาค 650 ล้านบาทเป็นแค่ราคาคุย ถ้าเช่นนั้นก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานหลอกลวงประชาชน

แถลงการณระบุว่า กรณีเงินบริจาคของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ที่บริจาคถึง 24 ล้านบาทแม้จะแยกบริจาคเป็น 3 บริษัท แต่ผู้บริหารสูงสุดเป็นคนเดียวกันหรือไม่ อาจขัดต่อ มาตรา 66 แห่งพรป.พรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดห้ามบุคคลบริจาคเกิน 10 ล้านบาทต่อปี และห้ามนิติบุคคลใดหรือบริษัทเอกชนบริจาคเกิน 5 ล้านบาทต่อปี หรือไม่เช่นนั้นก็อาจขัดต่อมาตรา 28 และมาตรา 29 ที่บัญญัติห้ามไม่ให้พรรคการเมืองและผู้ใดกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความเป็นอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม และ ตามบัญชีที่ พปชร.แสดงนั้นไม่ปรากฎการบริจาคของหน่วยงานราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งที่ผังการจัดโต๊ะจีนที่ปรากฎโดยสำนักข่าวแห่งหนึ่ง มีชื่อหน่วยงานรัฐอยู่ด้วยอย่างชัดเจน กรณีดังกล่าวมีการหลบเลี่ยงปกปิดข้อเท็จจริงที่ต้องแจ้งให้สาธารณชนและ กกต.ทราบหรือไม่

“กรณีเช่นนี้สมาคมฯขอเรียกร้องให้ กกต.ใช้อำนาจตาม พรป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2560 ไต่สวน และสอบสวนกรณีดังกล่าวข้างต้นเพื่อทำความจริงให้ปรากฎต่อสาธารณชน หากพบความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย”นายศรีสุวรรณกล่าว