เรืองไกร ร้องกกต.สอบบัญชีจัดระดมทุน พปชร.-รปช. หลังครบ30วันแล้ว ยังไม่เปิดเผย

“เรืองไกร” ร้องกกต.ตรวจสอบบัญชีจัดระดมทุนโต๊ะจีนพปชร- รปช. หลังครบกำหนด 30 วันยังไม่พบเผยแพร่รายละเอียดต่อปชช.

วันที่ 18 มกราคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองตรวจสอบการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 และพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ว่าเป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 64 หรือไม่ หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว จะมีโทษปรับตามมาตรา106 และมาตรา 123 หรือไม่

โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 มกราคม เป็นวันที่ครบกำหนด 30 วันที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจัดกิจกรรมเลี้ยงโต๊ะจีน โดยมีการคาดการณ์ว่าจะได้รับเงิน 234 ล้านบาท และครบกำหนด 30 วันที่พรรคพลังประชารัฐจัดกิจกรรมจัดเลี้ยงโต๊ะจีนที่มีการประกาศว่าได้รับเงินประมาณ 650 บ้านาท แต่จากการติดตามข้อมูล ในเว็บไซต์ของทั้งสองพรรคการเมือง ยังไม่พบว่ามีการประกาศให้ประชาชนทราบถึงจำนวนและที่มาของเงิน ทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวตามที่มาตรา 64 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดไว้ ซึ่งถ้าหากไม่มีการประกาศกฎหมายกำหนดให้มีโทษปรับตามมาตรา 106 และมาตรา 123 ดังนั้นจึงขอให้กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองตรวจสอบ

ทั้งนี้ นายเรืองไรยังได้ยื่นหนังสือโต้แย้งมติของกกต.ที่ยกคำร้องของตนเองกรณีขอให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ ตามความในมาตรา 28 โดยกกต.มีมติเมื่อวันที่ 8 มกราคม ว่า กระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของพรรค ” ซึ่งตนเห็นว่า ข้อบังคับและระเบียบของพรรคประชาธิปัตย์ที่กกต.อ้างเป็นเหตุในการยกคำร้องไม่อาจจะไปขัดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองได้ และการยกคำร้องเกิดขึ้น 5 วันทำการหลังจากที่ตนเพิ่งไปให้ถ้อยคำเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ถือว่าเร็วเกินไป และไม่มีการแจ้งว่าได้มีการสอบข้อเท็จจริงผู้ถูกร้องหรือพยานที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร

มติชนออนไลน์