เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร นายธนาธร จึงรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเวทีเสวนาวิชาการ “มุมมองทางการเมืองต่อความเหลื่อมล้ำทางสังคม” ร่วมกับตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ โดยได้ตอบคำถามสำคัญ 2 คำถามจากทางเวที
นั่นคือคำถาม ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท และ การแก้ไขความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบคมนาคมของประชาชน
นายธนาธร กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยไม่ได้เกิดจากความขยันหรือขี้เกียจอย่างที่คนบางกลุ่มพยายามทำให้เชื่อเช่นนั้น หากแต่เกิดจากโครงสร้างที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนในสังคม ผูกขาดทั้งอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจเอาไว้อยู่กับกลุ่มคนไม่กี่ตระกูล
และไม่ว่ากี่รัฐบาลจะพยายามแก้ปัญหาในประเด็นต่างๆ เท่าไร ตราบที่โครงสร้างเช่นนี้ไม่ถูกทำลายลง ปัญหาต่างๆจะไม่มีวันถูกแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น และลดอำนาจของรัฐราชการที่กรุงเทพฯลงไป
บนเวทีนี้ตนไม่สามารถพูดทุกนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ได้ใน 7 นาที แต่จะขอพูดถึงหลักคิดของพรรคอนาคตใหม่ คือ เราต้องการดึงเอาอำนาจและความมั่งคั่งที่ถูกผูกขาดอยู่กับกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ ออกมา และกระจายให้กับทุกคน
ทุกนโยบายของเราล้วนถูกวางอยู่บนหลักคิดเช่นนี้
ต่อคำถามว่าด้วย การแก้ไขปัญหาการคมนาคมนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะทำอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นระบบรางหรือรถเมล์ได้ด้วยตนเอง และสามารถพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมที่เชื่อมโยงกันได้ทั่วประเทศโดยไม่ต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัว
แต่ปัญหาอย่างที่ได้กล่าวไป คือ อำนาจในการตัดสินใจถูกผูกขาดอยู่กับรัฐราชการที่กรุงเทพ ซึ่งไม่ยอมพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ทั่วถึง และขัดขวางการพัฒนาระบบการขนส่งในหัวเมืองและชุมชนต่างๆ ซึ่งสะท้อนปัญหาโครงสร้างผูกขาดรวมศูนย์อย่างที่ตนได้พูดถึงไปเช่นกัน
ซึ่งจะทำได้ ก็ต้องเอาอำนาจออกจากมือของกรมโยธาธิการและผังเมือง ออกจากกรมการขนส่งทางบก
ปัญหาคือ กรมโยธาและกรมขนส่งทำอะไรก็ช้า กว่าจะอนุมัติแต่ละอย่าง จนเอกชนต้องทำ node การเดินทางใหม่ขึ้นมา คือรถตู้ เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว
แล้วส่วนกลางทั้ง 2 กรม ก็ไม่รู้ว่าคนอยู่ตรงไหน จะสร้างระบบการเดินทางเชื่อมระหว่างชุมชนเล็กๆไปสู่เมืองอย่างไร เราต้องเอาอำนาจกลับไปสู่ท้องถิ่นให้ได้ ให้ท้องถิ่นเป็นผู้ตัดสินใจในการสร้างระบบขนส่งสาธารณะด้วยตนเอง