วันที่ 16 มกราคม นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่เกิดฝุ่นพิษแพร่กระจายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) อย่างมากในขณะนี้ ปัญหาดังกล่าวได้สะสมและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพิกเฉยต่อการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหา จนทำให้ประชาชนนับล้านคนเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ นักท่องเที่ยวหนีหาย กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศมูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาทตามที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานนั้น ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลสั่งให้นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และผู้ว่าราชการ กทม.ประกาศให้พื้นที่ กทม. เป็นเขตควบคุมมลพิษเป็นการเร่งด่วน เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการขจัดและมลพิษ โดยสมาคมฯและชาว กทม. จะไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันที่ 17 มกราคมนี้ที่ ศาลปกครองกลาง ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. พร้อมคำขอให้ศาลเปิดศาลเพื่อไต่สวนฉุกเฉินด้วย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 เป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และผู้ว่าราชการ กทม.จะต้องใช้อำนาจตามมาตรา 9 และมาตรา 59 ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 ปกป้องสุขภาพของประชาชน เมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือภัยอันตรายต่อสาธารณะ เนื่องมาจากภัยธรรมชาติ หรือภาวะมลพิษ หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาก่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน โดยให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งตามที่เห็นสมควร ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือบุคคลใดเพื่อควบคุม ระงับ หรือบรรเทาผลร้ายจากอันตรายและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นได้อย่างทันท่วงที แต่กรณีนี้นายกรัฐมนตรีกลับเพิกเฉย เนื่องจากไปตระเวนหาความนิยมในจังหวัดเชียงใหม่-ลำปาง ทั้ง ที่ปัญหาฝุ่นพิษเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดในการแก้ไข

มติชนออนไลน์